ภาพยนตร์ภาคต่อที่คอหนังทั่วโลกรอคอยอย่าง Dune: Part Two ที่เดิมทีมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ถูกเลื่อนออกไปถึงปี 2024 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สืบเนื่องจากการประท้วง SAG-AFTRA หรือการประท้วงหยุดงานของเหล่านักแสดงและนักเขียนบทแห่งวงการฮอลลีวูด
Dune: Part Two อันเป็นภาพยนตร์ต้นทุนสูงจาก Warner Bros. มีกำหนดฉายใหม่เดือนมีนาคม 2024 ซึ่งนับเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นจากการประท้วงในครั้งนี้ ทั้งกับสตูดิโอและเหล่าเจ้าของโรงภาพยนตร์ด้วย โดยการประท้วงหยุดงานแห่งฮอลลีวูดครั้งใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ จะทำให้เหล่านักแสดงในสหภาพศิลปินยักษ์ใหญ่ไม่สามารถทำงานเดินสายโปรโมตผลงานของตัวเองได้
นอกจาก Dune: Part Two แล้ว Warner Bros. ยังประกาศเลื่อนฉายภาพยนตร์ Godzilla x Kong: The New Empire ออกไปหนึ่งเดือน เป็นวันที่ 12 เมษายน 2024 แทน รวมไปถึงผลงานแอนิเมชันที่ Warner Bros. Picture ทำร่วมกับ New Line อย่าง The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim ก็ถูกเลื่อนกำหนดฉายจากเดือนเมษายนปีหน้าออกไปเป็นวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดยขณะนี้ Warner Bros. เหลือภาพยนตร์ที่ยังไม่เลื่อนกำหนดฉายจากเดือนธันวาคมนี้ทั้งหมด 3 เรื่อง นั่นคือ Wonka, Aquaman and the Lost Kingdom และ The Color Purple
สำหรับ Dune: Part Two เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ผู้คนตั้งตารอเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยเรื่องราวอันเข้มข้นชวนติดตามจากภาคก่อน รวมถึงรายชื่อเหล่านักแสดงเจ้าบทบาทคนใหม่ที่ได้มาร่วมงานในภาคใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็น Austin Butler, Florence Pugh, Christopher Walken และ Léa Seydoux ในขณะที่ตัวละครเอกยังคงนำโดย Timothée Chalamet และ Zendaya เช่นเดิม
ภาพ: Warner Bros.
อ้างอิง: