วันนี้ (6 ธันวาคม) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต คณะทำงาน ชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เรียกตำรวจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เข้าให้ปากคำ กรณีเกี่ยวข้องกับการออกวีซ่ากลุ่มธุรกิจทุนจีนสีเทาว่า ดำเนินการถูกต้องหรือไม่ พร้อมเรียกนอมินีของ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เข้าให้การในฐานะพยานเพิ่มเติม
พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 หนึ่งในชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศรวม 26 แห่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมภายในผับจิ้นหลิงย่านยานาวา สอบถามใน 3 ประเด็นหลักคือ การต่ออายุหนังสือเดินทาง (วีซ่า) ให้กลุ่มคนจีน เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ที่ผ่านมาดำเนินการกับกลุ่มคนจีนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับอาชญากรรม เช่น คดีตัดนิ้วที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หรือไม่ โดยครั้งนี้จะเป็นการสอบสวนให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริง ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ใด แต่หากภายหลังพบความผิดจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป
พ.ต.อ. ภาคภูมิกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ได้เชิญ พัชรินทร์ ที่มีข้อมูลว่าเป็นนอมินีของตู้ห่าวมาให้ปากคำ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับตู้ห่าว รวมถึงประเด็นที่มาของทรัพย์สิน เส้นทางการเงิน การทำธุรกิจ หากภายหลังพบว่ามีการกระทำความผิด จะดำเนินคดีพร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“นอกจากนี้จะเชิญอดีตตำรวจระดับสารวัตรที่เป็นพี่ชายของพัชรินทร์ ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจของตู้ห่าว รวมทั้ง สุชาดา ที่เป็นหนึ่งกรรมการบริษัท มาสอบปากคำในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมผลให้คณะทำงานชุดใหญ่ต่อไป” พ.ต.อ. ภาคภูมิกล่าว
ต่อมาเวลา 11.00 น. พัชรินทร์ พร้อมด้วย ทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลในกรณีที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท โดยมีตู้ห่าวเป็นประธานกรรมการ
ด้านทวีศักดิ์กล่าวว่า พัชรินทร์ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุด คลี่คลายคดีทุนจีนสีเทาไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง โดยเป็นการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทรวมทั้งที่มาของทรัพย์สินในการทำธุรกิจ ส่วนครั้งนี้พัชรินทร์ได้เดินทางมาเป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับยืนยันว่ายินดีที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่อง