วันนี้ (23 ตุลาคม) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยกรณีปรากฏการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางสื่อสาธารณะถึงทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจค้นห้องพักในซอยรามอินทรา 9 เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ระบุว่า จากการประเมินด้วยสายตาพร้อมให้ความคิดเห็นว่าเป็นของปลอม รวมถึงการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการดำเนินการ
กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงว่า การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปภายใต้การสืบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญาและความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการเข้าตรวจค้นดังกล่าวดำเนินการโดยแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานบุคคล และนำไปสู่การยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนสิ่งของที่ตรวจยึดมานั้นมีทั้งสิ่งของที่เป็นพยานหลักฐานและทรัพย์สินตามที่ได้ข้อมูลจากพยาน ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษสั่งการให้กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว
กรมสอบสวนคดีพิเศษยืนยันว่า ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ ซึ่งบูรณาการกับทุกภาคส่วนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เมื่อได้ผลการตรวจสอบแล้วจะนำไปพิจารณาประกอบการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยวานนี้ (22 ตุลาคม) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำหมายค้นเข้าตรวจและยึดอายัดทรัพย์สินภายในอพาร์ตเมนต์ย่านรามอินทรา ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่าเป็นแหล่งซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้ก่อตั้งบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ก่อนถูกจับกุมจากการตรวจค้นพบนาฬิกาหรูหลายเรือน สร้อยคอทองคำ พระเครื่องเลี่ยมทอง รวมถึงกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์เนม มูลค่ารวมกันหลายสิบล้านบาท