กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี นพ.บุญ (สงวนนามสกุล) กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567
ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จากผู้กล่าวหาและผู้เสียหายจำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาท และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่สำนวนแล้วจำนวน 13 ราย
หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีดังกล่าวประชุมและมีมติเห็นควรเสนอให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 16 ราย ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตาม พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และที่แก้ไขเพิ่มเติม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา
ล่าสุดวานนี้ (27 มกราคม) พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร.ต.อ. วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ, อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2567 นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวจำนวน 342 แฟ้ม รวมเอกสารกว่า 130,000 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง นพ.บุญ กับพวก รวม 16 ราย ซึ่งถูกจับกุมแล้วจำนวน 13 ราย (อีก 3 รายหลบหนี อยู่ระหว่างติดตามตัว รวมทั้ง นพ.บุญ ด้วย) ไปส่งมอบให้แก่พนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อให้พนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษให้มีความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พ.ต.ต. ยุทธนา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสอบสวนคดีพิเศษ และให้เป็นที่เชื่อถือและศรัทธาของสังคมในการป้องกันปราบปรามและสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์กรมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป