วันนี้ (16 กรกฎาคม) พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 หรือคดี อั้งยี่-ฟอกเงิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยเตรียมเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนในวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคมนี้ เพื่อวางแนวทางการสอบสวนเพิ่มเติม หลังพบข้อเท็จจริงว่าผู้สมัครส่วนใหญ่รับเงินมาเพื่อลงสมัครและโหวตให้กับบุคคลอื่น
คดีนี้ดีเอสไอได้ใช้เทคโนโลยี GEO-AI และ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการลงคะแนนของผู้สมัคร สว. ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนพบกลุ่มบุคคล 7 รายที่มีความใกล้ชิดกับขบวนการฮั้ว สว. และได้เรียกมาสอบปากคำแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และล่าสุดมีการออกหมายเรียกพยานเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็น 12 ราย
อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่ามีผู้สมัครที่เข้าข่ายกระทำความผิดประมาณ 10 ราย แต่จะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลว่ามีความผิดในส่วนใด เพราะบางคนอาจรับเงินมาเพื่อลงสมัครโดยไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดของขบวนการฮั้ว สว.
เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.ต. ยุทธนา ยืนยันว่า หากหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็ตาม ดีเอสไอจำเป็นต้องเรียกมาให้ข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากข้อมูลสอดคล้องกับสำนวนของ กกต.
