วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) เสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการฮั้วการเลือกตั้ง สว. เป็นอำนาจหน้าที่เฉพาะของ กกต. หรือไม่ว่า ก็คงต้องไปดูว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่ การกระทำเดียวกันอาจเป็นความผิดต่อกฎหมายการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาได้ ในการกระทำเดียวกันที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ในขณะเดียวกันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ฟอกเงิน หรือความผิดฐานอื่นหากมีด้วย
ดังนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จึงมีอำนาจสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ฟอกเงิน หรือความผิดฐานอื่นที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดได้ เพราะเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทดังกล่าว การกระทำดังกล่าวหากพูดกับตามเนื้อผ้า ประชาชนทั้งประเทศก็เห็นเหมือนกัน สื่อมวลชนทั่วไปก็ทราบความดี ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายทำให้เห็นว่ามีการบล็อกโหวตด้วยการลงคะแนนเป็นชุดๆ และมีพฤติการณ์อื่นที่มีความชัดเจน ที่ผมเคยเสนอความเห็นมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นพยานหลักฐาน จนมาถูกเรียกว่าเป็น สว. กลุ่มสีน้ำเงิน
ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ กกต. ไม่ทำหน้าที่ ซึ่งหลังจากที่ กกต. รับรองผลการเลือกไปแล้วก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่มีการร้องเรียน แต่ กกต. ไม่ทำให้เกิดความกระจ่าง เรื่องมันก็ยิ่งยุ่ง ทั้งที่ก็เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องรับผิดชอบ เวลายิ่งผ่านไปนานวันเท่าใด กกต. ก็จะมีความผิดชัดเจนและมัดตัว กกต. มากขึ้นไปเรื่อยๆ
ประการสำคัญคือกระบวนการเลือกตั้งที่เราพยายามหาบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการเลือกตั้ง อันมีหน้าที่สำคัญที่ต้องให้ความเป็นธรรมและสร้างความถูกต้องในการเลือกตั้ง สส. และการได้มาซึ่ง สว. แต่ กกต. กลับไม่ทำให้เป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องดีงาม มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายที่กฎหมายเขียนไว้อย่างดี แต่ปัญหามันอยู่ที่คนที่อยากเข้าเป็น กกต. แต่ไม่ทำหน้าที่ จริงๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามาเป็นทำไม
“เชื่อผมเถอะ เห็นมาแยะแล้ว การที่ กกต. หากมีหน้าที่แล้วไม่ทำ ไปๆ มาๆ ดูแล้ว กกต. จะเป็นคนที่ติดคุกเสียเอง กกต. ควรรีบทำอะไรๆ ในหน้าที่ของตนให้ถูกต้องเป็นธรรม ตามอำนาจหน้าที่ของตน”
อ้างอิง: