วันนี้ (24 เมษายน) พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน โดยยืนยันว่า DSI สืบสวนอย่างต่อเนื่องและได้ส่งสำนวนคดีล็อตแรก 161 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 10 สำนวน พร้อมคดีองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครบถ้วนแล้ว โดยเฉพาะในส่วนที่มีข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการสืบสวนขยายผลต่อไป
ด้าน พ.ต.ต. ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คดีหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวมกว่า 4.9 ล้านกิโลกรัม มูลค่าความเสียหายกว่า 460 ล้านบาท ที่ DSI รับเป็นคดีพิเศษตั้งแต่กลางปี 2566 ได้แบ่งเป็น 10 สำนวนตามบริษัทที่กระทำความผิด และพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องทั้งหมด จึงทยอยส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2567 และส่งสำนวนสุดท้ายเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา รวมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกว่า 30 คน
อย่างไรก็ตาม DSI ได้เปิดคดีพิเศษใหม่ กรณีการลักลอบนำตู้คอนเทนเนอร์ 2,388 ตู้ออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดยคณะพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบใน 7 ประเทศยุโรป (อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก) รวมถึงบราซิล ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นทางการสั่งซื้อ พบความผิดปกติในการสำแดงสินค้าเท็จ เช่น สั่งปลาแซลมอนจากอิตาลีและบราซิล แต่ทั้งสองประเทศยืนยันว่าไม่มีการส่งสินค้าดังกล่าวมายังประเทศไทย
DSI จึงประสานความร่วมมือทางอาญากับทั้ง 7 ประเทศ เพื่อขอข้อมูลยืนยันชนิดสินค้าที่แท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การสาวถึงเส้นทางการนำเข้าหมูเถื่อน นอกจากนี้ กลุ่มประเทศยุโรปได้แจ้งว่ามีการตั้งเรื่องคดีฟอกเงินเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้า-ส่งออกหมูเถื่อนล็อตแรก โดยอิตาลีเป็นผู้นำในการสืบสวน ซึ่งประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน โดยจะเริ่มดำเนินการหลังเดือนสิงหาคมนี้
ด้าน สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จะต้องหารือกับ ป.ป.ช. ว่าจะให้ DSI ส่งเรื่องคดีหมูเถื่อนล็อตใหม่ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการเลย หรือจะให้ DSI สืบสวนไปก่อน เนื่องจากต้องรอข้อมูลจากต่างประเทศซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง