×

กลุ่มนายจ้างสีขาวมอบหลักฐานขบวนการรีดไถค่าหัวคิวแรงงานกัมพูชาให้ DSI หลังพบเรียกเก็บเงินรายละ 2,500 บาท

โดย THE STANDARD TEAM
16.07.2025
  • LOADING...
นิลุบล พงษ์พยอม ยื่นหลักฐานให้ดีเอสไอ

วานนี้ (15 กรกฎาคม) กลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างชาติ หรือที่รู้จักในนาม ‘กลุ่มนายจ้างสีขาว’ นำโดย นิลุบล พงษ์พยอม ผู้ก่อตั้งกลุ่ม พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ท. ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับขบวนการรีดไถค่าหัวคิวแรงงานต่างชาติชาวกัมพูชา

 

การเข้ามอบหลักฐานครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นบริษัทรับปรึกษาด้านเอกสารแรงงานต่างชาติในเขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวจากแรงงานกัมพูชาคนละ 2,500 บาท เพื่อนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา

 

นิลุบล เปิดเผยว่า ข้อมูลที่นำมามอบให้ดีเอสไอในวันนี้ เป็นหลักฐานที่ได้มาจากกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดการโอนเงินค่าหัวคิวและบัญชีม้าที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากดีเอสไอเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีแรงงานกัมพูชาที่ค้างอยู่ในระบบได้รับการอนุมัติแล้วเกือบ 1 แสนราย โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าหัวคิว 2,500 บาทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แรงงานที่จ่ายเงินไปแล้วยังคงต้องจ่ายค่า Calling Visa เพิ่มอีก 300-500 บาท เพื่อให้การอนุมัติเสร็จสิ้น

 

นิลุบล ตั้งข้อสังเกตว่า ระบบการต่อใบอนุญาตออนไลน์ยังคงมีปัญหาและเอื้อต่อการเรียกเก็บเงิน เพราะขาดความชัดเจนเรื่องค่าใช้จ่าย โดยมติคณะรัฐมนตรีและประกาศกระทรวงแรงงานไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการและแรงงานไม่ทราบค่าใช้จ่ายที่แท้จริง พร้อมระบุว่าเคยยื่นเอกสารขอให้มีการแก้ไขปัญหานี้กับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ

 

ด้านชิษณุชา จารุพันธ์ ตัวแทนนายจ้างอีกราย เผยว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้โดยตรง เมื่อพยายามต่อใบอนุญาตให้แรงงานกัมพูชา แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ และถูกเอเจนซีเรียกเก็บค่า Name List เพิ่มคนละ 5,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้อยู่ในระเบียบข้อบังคับ แต่เมื่อดีเอสไอเข้ามาดำเนินการ ปรากฏว่าระบบกลับมาอนุมัติได้ตามปกติ

 

พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีการเรียกเก็บค่าหัวคิว 2,500 บาทจริง หากไม่จ่ายจะไม่สามารถอนุมัติได้ โดยหลักฐานที่ได้รับในวันนี้จะนำไปประกอบสำนวนคดี เพื่อสืบสวนและขยายผลต่อไป

 

พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเชิงลึก และได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 14 ปาก ทั้งกลุ่มบัญชีม้า เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ประกอบการ พร้อมเตรียมเรียกกลุ่มนายจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสาวถึงเส้นทางการเงิน ซึ่งพบว่ามีมูลค่ารวมกว่าร้อยล้านบาท

 

“หากพบว่ามีการกระทำผิด จะไม่ละเว้นทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา” พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าว 

 

โดยระบุว่า ถึงแม้เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานจะให้การปฏิเสธว่าไม่มีการเรียกเก็บเงิน แต่ดีเอสไอจะใช้หลักฐานการโอนเงินเป็นสำคัญในการพิสูจน์ความจริง 

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับนโยบายของพิพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พ.ต.ต. ยุทธนา เผยว่า จะต้องมีการสืบสวนตามหลักฐานต่อไป แต่ยังไม่ถึงขั้นจะเรียกตัวมาสอบปากคำในขณะนี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising