×

ตรวจเข้มเมาแล้วขับ ประกันไม่จ่าย จับเป็นอาสาจราจร ตากแดด-อดเที่ยวสงกรานต์

09.04.2018
  • LOADING...

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้กำลังจะเริ่มแล้ว เช่นเดียวกับมาตรการจัดการกับผู้ ‘เมาแล้วขับ’ ที่ปีนี้เข้มงวดกว่าที่เคย

 

สำหรับปีนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเปิดศูนย์ปฏิบัติการสาธารณสุขฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน โดยมีทีมแพทย์ฉุกเฉินทุกระดับจำนวน 14,492 หน่วย มีแพทย์ พยาบาล และหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น 165,158 คน เจ้าหน้าที่ทีมศัลยแพทย์ 1,500 คน เรือปฏิบัติการฉุกเฉิน 155 ลำ และเครื่องบิน 129 ลำ พร้อมกำชับทีมแพทย์ให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ประสบอุบัติเหตุ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มโทษกรณีที่ทำให้คนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมทั้งย้ำว่าหากมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันจะไม่จ่าย

 

ด้านกรมคุมประพฤติ ได้สั่งการให้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ โดยร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาตรการให้ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมในช่วง 7 วันอันตราย ทั้งในเขตพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยทำหน้าที่เป็นอาสาจราจรช่วยตำรวจปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดอำนวยการจราจร ด่านชุมชน จุดบริการประชาชน และจุดที่มีการจัดให้เล่นน้ำสงกรานต์ ช่วยตำรวจปฏิบัติงานที่สถานีตำรวจและด่านตรวจค้น โดยสั่งการให้สำนักงานควบคุมประพฤติทั่วประเทศคัดผู้ถูกคุมประพฤติที่ศาลสั่งให้ทำงานบริการสังคมประมาณ 10,000 คน ไปร่วมเป็นอาสาจราจร

 

นอกจากนี้ผู้ถูกคุมประพฤติที่ถูกศาลสั่งให้ทำงานบริการสังคมจะต้องถูกพักการใช้ใบขับขี่ และถูกคุมประพฤติภายใน 1 ปี ซึ่งกรมคุมประพฤติต้องติดตามควบคุมไม่ให้ฝ่าฝืนเงื่อนไข หรือกลับไปขับขี่ยานพาหนะในช่วงถูกพักใบอนุญาต ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดยังจัดให้ผู้ถูกคุมประพฤติปฏิบัติงานในช่วงกลางคืน โดยทำหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกด้วย โดยที่ผ่านมาได้ออกแบบงานบริการสังคมหลายรูปแบบ เช่น เมาแล้วขับไปทำงานห้องดับจิต ดูแลผู้ป่วยแผนกอุบัติเหตุ หรือดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุที่นอนติดเตียงที่บ้าน

 

“ผู้ถูกคุมประพฤติต้องออกไปตากแดด ตากลม ไม่ได้เที่ยวหรือฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสัมผัสกับคนเมาแล้วขับ จะได้มีความตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก” นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าว

 

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกมาตรการเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนการดื่มแล้วขับจะมีการตรวจแอลกอฮอล์ทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยได้รับการสนับสนุนจาก สสส. เรื่องการตรวจเลือดทุกกรณี หากตรวจพบระดับแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน ประกันจะไม่จ่าย นอกจากนี้ยังเตรียมคุมเข้มข้าราชการ หากพบว่ามีการดำเนินคดีกับข้าราชการ ทาง ปภ. จะแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาให้ลงโทษทางวินัย และหากผู้บังคับบัญชาไม่ดำเนินการ ก็จะลงโทษผู้บังคับบัญชาด้วย

 

ด้าน พล.ท. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงก่อนหน้านี้ว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เจ้าหน้าที่ยังคงใช้นโยบายเมาแล้วขับ จับยึดรถ โดยให้หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังกำชับให้กำลังพบปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม

 

ทั้งนี้จากสถิติของมูลนิธิเมาไม่ขับพบว่า จำนวนอุบัติเหตุบนถนนจากสาเหตุเมาแล้วขับในรอบ 20 ปีที่ผ่านมามีมากถึง 80% ของอุบัติเหตุบนถนนทั้งหมด แม้ปัจจุบันจะเหลือ 50% จากการรณรงค์อย่างหนัก แต่จำนวนอุบัติเหตุภาพรวมทั้งประเทศยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เพราะมีพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุอื่นๆ เช่น การใช้ความเร็วสูงขณะขับขี่ การใช้โทรศัพท์ ความง่วง การแซง ฝ่าไฟแดง และการขับขี่ย้อนศร ซึ่งทางมูลนิธิฯ เรียกร้องให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหานี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising