×

หนังสือ 6 เล่มของ Dr. Seuss จะหยุดตีพิมพ์เนื่องจากมีภาพลักษณ์เหยียดเชื้อชาติ

04.03.2021
  • LOADING...

หนังสือจำนวน 6 เล่มของของ ดร.ซูสส์ หรือ ธีโอดอร์ ซูสส์ ไกเซล นักเขียนการ์ตูนชื่อดังชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ เตรียมหยุดตีพิมพ์และหยุดจำหน่ายตามรายงานจากแถลงการณ์ของ Dr. Suess Enterprise เนื่องจากภายในหนังสือเหล่านั้นมีภาพเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงการเหยียดผิวและเหยียดเชื้อชาติ 

 

โดยหนังสือทั้ง 6 เล่มของ ดร.ซูสส์ ที่เตรียมจะหยุดตีพิมพ์และหยุดจำหน่ายนั้นประกอบไปด้วย And to Think That I Saw It on Mulberry Street (1937), McElligot’s Pool (1947), If I Ran the Zoo (1950), Scrambled Eggs Super! (1953), On Beyond Zebra! (1955) และ The Cat’s Quizzer (1976) 

 

ทาง Dr. Suess Enterprise บริษัทที่คอยดูแลผลงานและทรัพย์สินของซูสส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยครอบครัวของเขา ได้ปรึกษาหารือกันอยู่หลายเดือนก่อนจะตัดสินใจเรื่องนี้ เนื่องจากช่วงหลายปีหลังผลงานของนักเขียนการ์ตูนผู้ล่วงลับคนนี้เริ่มถูกผู้คนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องภาพเนื้อหาบางส่วนที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการ ‘เหยียด’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และอาจสร้างภาพจำหรือสร้างความเข้าใจแบบผิดๆ ทำให้เด็กๆ คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกได้ 

 

ตัวอย่างเช่น ในหนังสือเล่ม And to Think That I Saw It on Mulberry Street ก็มีภาพของตัวละครหนึ่งที่สวมหมวกทรงแหลมกำลังใช้ตะเกียบกินอาหารจากหม้อ หรือในหนังสือเล่ม If I Ran the Zoo ที่มีภาพของตัวละครชายชาวแอฟริกาผิวดำ มัดผมชี้ฟ้ายืนเท้าเปล่าและสวมใส่กระโปรงที่ทำจากหญ้า รวมถึง The Cat in the Hat (1957) หนังสือของ ดร.ซูสส์ เล่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ถูกวิจารณ์ด้วยเช่นกัน

 

“หนังสือเหล่านี้นำเสนอภาพผู้คนในรูปแบบที่เจ็บปวดและไม่ถูกต้อง การยุติการขายพวกมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นและแผนงานที่กว้างขึ้นเพื่อทำให้ทุกคนมั่นใจว่าผลงานและสินค้าของ Dr. Suess Enterprise จะเป็นตัวแทนแสดงความสนับสนุนให้ทุกชุมชนและทุกครอบครัวโดยไม่แบ่งแยก

 

“Dr. Suess Enterprise รับฟังและน้อมรับทุกข้อเสนอแนะจากผู้อ่าน รวมถึงบรรดาคุณครู นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบของเรา” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จาก Dr. Suess Enterprise

 

หนังสือของ ดร.ซูสส์ ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ถูกนำไปตีพิมพ์ในภาษาอื่นหลายสิบภาษา และถูกจัดจำหน่ายออกไปทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ แม้ว่าซูสส์จะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1991 แต่ชื่อเสียงและผลงานของเขาก็ยังคงโด่งดังเป็นที่พูดถึงอยู่เรื่อยๆ โดยในปี 2020 ซูสส์ทำรายได้จากหนังสือของตัวเองก่อนหักภาษีได้ถึง 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ของเซเลบริตี้ (ที่เสียชีวิตแล้ว) ผู้ทำรายได้สูงสุดจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes เป็นรองเพียงราชาเพลงป๊อปอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน เท่านั้น

 

ภาพ: Gene Lester / Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising