ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวหลังร่วงหนักจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones ทะยานขึ้น 1,293.96 จุด หรือ 5.1% ปิดที่ 26,703.32 จุด เมื่อคืนนี้ (2 มีนาคม) ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 11 ปี รับความคาดหวังที่ว่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางหลายประเทศจะออกมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจโลก
นอกจาก Dow Jones แล้ว อีก 2 ดัชนีหลักของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทก็รีบาวด์กันถ้วนหน้า โดยดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 136.01 จุด หรือ 4.6% ปิดที่ 3,090.23 ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite พุ่งขึ้น 384.80 จุด หรือ 4.5% ปิดที่ 8,952.16 โดยทั้งสองดัชนีทำสถิติปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมปีที่แล้ว
ตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันอย่างหนักจากความวิตกเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนหรือเทขายหุ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ดัชนี Dow Jones ดิ่งลงถึง 12.4% ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง 11.5% และ 10.5% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสถิติสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับจากปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน
นักวิเคราะห์มองว่าการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์เป็นเพราะเกิดความหวังที่ว่าประเทศต่างๆ จะออกมาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ มีแนวโน้มออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงอีก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ตลาดหุ้นช่วงนี้อาจมีความผันผวน
โจ ซาลุซซี นักวิเคราะห์การลงทุนจาก Themis Trading ให้ความเห็นกับ MarketWatch ว่า สัญชาตญาณแรกของผู้คนคือการขอความช่วยเหลือจาก Fed ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยื่นมือเข้าช่วย แต่สิ่งที่เขาคาดหวังด้วยก็คือการทำงานประสานกันของธนาคารกลางหลายประเทศ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นต่อไปได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.marketwatch.com/story/us-stock-futures-sink-suggesting-the-worst-isnt-over-for-wall-street-2020-03-01?mod=MW_story_top_stories
- www.bbc.com/news/business-51713271