ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สดีดขึ้น 300 จุด หรือ 0.89% เหตุนักลงทุนคลายกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังมีรายงานข่าวว่ารัสเซียได้ส่งทหารบางส่วนกลับฐาน สะท้อนว่าสงครามน่าจะไม่เกิดขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สอ้างอิงดัชนีอุตสาหกรรรม พุ่งขึ้น 309 จุด หรือ 0.89% เช่นเดียวกับ S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 1.18% และ Nasdaq 100 Futures พุ่งขึ้น 1.6% โดยดัชนีตลาดล่วงหน้าที่ปรับเพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุนต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับคำสั่งส่งทหารบางส่วนของรัสเซียกลับฐาน
โดยมีรายงานข่าวว่า อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อ้างว่าหน่วยทหารจากเขตทางใต้และตะวันตกของรัสเซียได้เริ่มกลับไปที่กองทหารรักษาการณ์แล้ว ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถลดความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับตะวันตกที่มีต่อยูเครนได้
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 กุมภาพันธ์) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดต่ำกว่า 171.89 จุด หรือ 0.5% หลังจากตกลงมากกว่า 400 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ระหว่างวันปรับตัวลดลงถึง 1.2% ก่อนปิดการซื้อขายสิ้นวันด้วยการปรับตัวลดลง 0.4% ด้านดัชนี Nasdaq ลดลง 0.9%
ในขณะเดียวกัน วานนี้ราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 ส่วนราคาทองคำล่วงหน้าไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง
ราคาสินทรัพย์ที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าว เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน โดยอ้างว่าทำไปเพราะมีการระดมกองกำลังของรัสเซียที่ชายแดนยูเครน
ไรอัน เด็ททริค หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ LPL Financial กล่าวว่า นักลงทุนกำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางการเมืองและน้ำมันดิบที่ไต่ระดับขึ้นสู่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ตลาดดูเหมือนจะปรับตัวรับความกังวลดังกล่าวไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์
ในขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น แต่ฉากหลังพื้นฐานของตลาดยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการ บจ. ในตลาด S&P 500 ที่กว่า 70% รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2021 ออกมาดีเกินคาด โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% ขณะที่หลายบริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจและผลประกอบการในปี 2022 เช่นกัน
“การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กำลังจะมาถึง อัตราเงินเฟ้ออยู่เหนือการควบคุม และความตึงเครียดทางการเมืองสูงทำให้นักลงทุนกังวล แต่อย่าลืมว่าเรากำลังจะปิดฤดูกาลรายได้ที่แข็งแกร่งอีกไตรมาสหนึ่ง แม้จะมีข้อกังวลมากมาย แต่การที่จะเห็นผลประกอบการที่แข็งแกร่งจริงๆ ในไตรมาสที่แล้ว ร่วมกับบริษัทโดยรวมที่มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตเศรษฐกิจ นี่คือสิ่งที่ควรให้ความหวังแก่นักลงทุน” เด็ททริคกล่าว
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed แห่งรัฐเซนต์หลุยส์ กล่าวกับ CNBC ว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องก้าวร้าวในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบปีต่อปีนับตั้งแต่ปี 1982 ส่งผลให้ซิตี้กรุ๊ปและโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 เป็น 7 ครั้ง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP