ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากเหตุจลาจลที่ก่อโดยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่อาคารรัฐสภา (US Capitol) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเตือนว่า ความพยายามของสมาชิกเดโมแครตในการถอดถอนเขาพ้นจากเก้าอี้กำลังสร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าเขาไม่ต้องการความรุนแรง
“ผมไม่ต้องการความรุนแรง” ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าว ขณะออกเดินทางไปตรวจดูกำแพงพรมแดนในอลาโม รัฐเท็กซัส
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตอบคำถามว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ ขณะที่เหลืออีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะถึงวันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของ โจ ไบเดน
“กระบวนการถอดถอนกำลังสร้างความโกรธแค้นอย่างมาก และพวกเขากำลังทำเช่นนั้น ซึ่งเป็นเรื่องเลวร้ายที่พวกเขา (สมาชิกเดโมแครตในสภา) กำลังทำ” ทรัมป์กล่าว นอกจากนี้เขายังระบุด้วยว่า ความพยายามถอดถอนเขาให้พ้นจากตำแหน่งจากข้อกล่าวหาที่ว่าเขาปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลนั้นเป็นเรื่องของการ ‘ล่าแม่มด’
ทั้งนี้ทรัมป์จะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนในสภาคองเกรส 2 ครั้ง หากสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบให้มีการถอดถอนในวันนี้ โดยนอกจากกระบวนการถอดถอนตามปกติแล้ว ไมค์ เพนซ์ ยังถูกกดดันให้ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่ 25 ในการปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง โดยบทบัญญัติดังกล่าวเปิดทางรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะรัฐมนตรีเกินครึ่งหนึ่งเขียนหนังสือแจ้งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภาว่าประธานาธิบดีได้กลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้รองประธานาธิบดีขึ้นรักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวได้ ในระหว่างรอสมาชิกสภาคองเกรสลงมติ
ภาพ: MANDEL NGAN / AFP
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: