ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ อาจเลวร้ายลงกว่านี้ก่อนที่จะดีขึ้นในภายหลัง พร้อมแนะนำประชาชนที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ในการแถลงสรุปสถานการณ์โควิด-19 ของทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (22 กรกฎาคม) เขาลดโทนลงและพูดตามสคริปต์มากขึ้น พร้อมเตือนในสิ่งที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่าสถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ อาจเลวร้ายลงอีก ก่อนที่จะดีขึ้นหลังจากนั้น
ทรัมป์ยังขอให้ชาวอเมริกันสวมใส่หน้ากากเมื่อไม่สามารถเว้นระยะห่างทางกายภาพได้ โดยระบุว่ามันช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส และเป็นการแสดงความรักชาติด้วย
“ไม่ว่าคุณจะชอบหน้ากากหรือไม่ มันส่งผลกระทบ และมันช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ เราจำเป็นต้องทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้” ทรัมป์กล่าว
นอกจากหน้ากากแล้ว ทรัมป์ยังขอให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และทำความสะอาด เช่น ล้างมือเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากกลุ่มประชากรที่เสี่ยง
“เราวิงวอนให้ชาวอเมริกันหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันในบาร์ และสถานที่ในร่มที่มีคนหนาแน่น” ทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ทรัมป์กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้ากำลังใกล้เข้ามา ซึ่งโพลล่าสุดจาก CNN ชี้ว่า โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีและคู่แข่งจากเดโมแครตในการชิงชัยเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวครั้งนี้มีคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งนำหน้าทรัมป์ 12 จุด (ไบเดน 52% – 40% ทรัมป์) โดยประเด็นโควิด-19 เป็นวาระสำคัญที่สุดที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: