ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แย้มถึงความเป็นไปได้ในการแยกเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกจากจีน แม้เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็ตาม ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ตกต่ำสุดขีดจากความขัดแย้งที่ครอบคลุมตั้งแต่การค้า เทคโนโลยี การเมือง ไปจนถึงสิทธิมนุษยชน
ในวิดีโอที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ สตีฟ ฮิลตัน ของ Fox News ซึ่งออกอากาศในวันอาทิตย์ (23 สิงหาคม) เขาระบุว่า สหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจกับจีน จากนั้นทรัมป์พูดถึงการแยกเศรษฐกิจออกจากกันว่า หากจีนปฏิบัติต่อสหรัฐฯ ไม่ถูกต้อง เขาก็อาจต้องทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้เผยรายละเอียดมากนักว่าจะแยกเศรษฐกิจออกจากกันอย่างไร หรือมีแนวทางรับมือผลกระทบที่ตามมาเช่นไร
ก่อนหน้านี้ทรัมป์นำสหรัฐฯ ทำสงครามการค้ากับจีนอย่างดุเดือด ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งกำหนดให้จีนต้องซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2021 (เพิ่มจากยอดการค้าในปี 2017) อย่างไรก็ตาม สองประเทศเกิดความระหองระแหงจากปัญหาโรคระบาด ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้โควิด-19 ลุกลาม จากนั้นสหรัฐฯ ยังเดินหน้าทำสงครามเทคโนโลยีกับจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลงเอยด้วยการแบน Huawei, TikTok และอีกหลายบริษัทที่อยู่ในข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง
ความตึงเครียดระหว่างสองชาติยังเกิดขึ้นในประเด็นการเมืองและสิทธิมนุษยชน โดยสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง และคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงหลายคน เพื่อตอบโต้จีนที่บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายอำนาจการปกครองตนเองของฮ่องกง นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงด้วย
ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เคยเตือนว่าสหรัฐฯ อาจแยกเศรษฐกิจออกจากจีน ซึ่งรวมถึงการแยกซัพพลายเชนออกจากกันด้วย หากบริษัทของสหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งชันในตลาดจีนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
