ทรัมป์อภัยโทษอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงที่ถูกไล่ออก-ตั้งข้อหา ฐานโกหก FBI เรื่องติดต่อทูตรัสเซีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศผ่าน Twitter วานนี้ (26 พฤศจิกายน) ว่าเขาได้อนุมัติการอภัยโทษในทุกด้าน (Full Pardon) ให้แก่ ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา ที่ถูกไล่ออกและถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2017 หลังยอมรับสารภาพผิดว่าให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางหรือ FBI ถึง 2 ครั้ง ซึ่งรวมถึงกรณีการติดต่อพูดคุยกับทูตรัสเซียเรื่องการถอนคว่ำบาตร ก่อนที่ทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่ง

โดยการอภัยโทษดังกล่าว ถือเป็นการลบล้างทุกคำรับสารภาพผิดของฟลินน์ ส่งผลให้การดำเนินคดีเขาเกี่ยวกับการสืบสวนเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียเมื่อปี 2016 สิ้นสุดลง และถือเป็นการใช้อำนาจอภัยโทษครั้งสำคัญก่อนที่ทรัมป์จะหมดวาระดำรงตำแหน่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

พลโท ฟลินน์ ซึ่งเป็นอดีตทหารปลดเกษียณ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรัมป์ไว้ใจและแต่งตั้งให้รับตำแหน่งที่ปรึกษา หลังชนะการเลือกตั้งในปี 2016 เพียงไม่กี่วัน

โดยเขารับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง และหัวหน้าที่ปรึกษาด้านกิจการระหว่างประเทศและกลาโหม แต่อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 23 วัน ก่อนจะถูกไล่ออก หลังปรากฏข่าวอื้อฉาวว่าเขาโกหกรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกหลายคน เรื่องการติดต่อกับ เซอร์เกย์ คิสลีแยค ทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง

หนึ่งในบทสนทนาระหว่างฟลินน์กับคิสลีแยคที่ถูกเปิดเผยออกมา พบว่า ฟลินน์ขอให้ฝ่ายรัสเซียบรรเทาท่าทีและมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ หลังรัฐบาลบารัก โอบามา ในขณะนั้น ดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อลงโทษเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งฟลินน์ยืนยันต่อทูตรัสเซียว่า ทรัมป์จะยกเลิกการคว่ำบาตรหลังเข้ารับตำแหน่ง และสัญญาว่าทั้งสองประเทศจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

ขณะที่ฟลินน์ถูกสอบสวนจาก FBI เกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2017 ซึ่งในครั้งนั้นเขาปฏิเสธว่าไม่เคยพูดคุยกับทูตรัสเซีย ก่อนจะยอมรับสารภาพว่าให้การเท็จ โดยในตอนแรกเขายินยอมให้ความร่วมมือกับอัยการ ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนท่าที และขอถอนคำรับสารภาพ โดยอ้างว่าถูกอัยการล่อลวงให้ยอมรับข้อตกลงรับสารภาพ

ทางด้านทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประกาศอภัยโทษ ยืนยันว่าฟลินน์เป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ควรถูกดำเนินคดีตั้งแต่แรก

ส่วนทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามหาช่องทางยกเลิกข้อกล่าวหาของฟลินน์ เปิดเผยว่าทางกระทรวงไม่ได้รับการขอคำปรึกษาจากประธานาธิบดีทรัมป์ก่อนดำเนินการอภัยโทษดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากกรณีการอภัยโทษอื่นๆ ที่เคยมีมา แต่ระบุว่า ได้รับการแจ้งล่วงหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งทางกระทรวงมองว่าการคลี่คลายคดีนี้ด้วยการยกฟ้องในชั้นศาลนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า

ขณะที่การประกาศอภัยโทษฟลินน์ ยังทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และประณามการกระทำของทรัมป์จากหลายฝ่าย ที่มองว่าเขาใช้อำนาจช่วยเหลือเพื่อนด้วยการแทรกแซงระบบยุติธรรม อีกทั้งยังเปิดช่องให้อดีตที่ปรึกษาคนอื่นๆ รอดพ้นจากคดีแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียด้วยเช่นกัน

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: