ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ไม่ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยอเมริกันในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ หากพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ หลังถูกสอบถามจากผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (23 กันยายน)
โดยทรัมป์กล่าวว่า ต้องรอดูต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนอ้างปมปัญหาในการลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์นั้นเปิดช่องให้เกิดการโกงเลือกตั้งได้ง่าย และพรรคเดโมแครตนั้นใช้จุดอ่อนนี้เพื่อโค่นล้มเขา
“เราคงต้องดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมร้องเรียนอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องบัตรลงคะแนน (ทางไปรษณีย์) และบัตรลงคะแนนเหล่านี้คือหายนะ กำจัดบัตรลงคะแนน (ทางไปรษณีย์) สิ แล้วคุณจะได้สันติ จะไม่มีการถ่ายโอนอำนาจ พูดตรงๆ ว่ามันจะมีผลสืบเนื่อง บัตรลงคะแนนเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุม พวกคุณรู้ดี และคุณรู้ว่าใครที่รู้ดีกว่าคนอื่น พรรคเดโมแครตไงที่รู้ดีกว่าใคร” ทรัมป์ กล่าว
ที่ผ่านมาทรัมป์ยืนกรานปฏิเสธที่จะยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีหากเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และกล่าวหาพรรคเดโมแครตที่ใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อเอาชนะเขา
ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้ผู้สนับสนุนสิทธิในการเลือกตั้งและผู้เชี่ยวชาญการเมืองสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อความล้มเหลวในการเลือกตั้งและวิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้หลายรัฐของสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการลงคะแนนเพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพร้อมรับมือกับการลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีการฟ้องร้องในชั้นศาลหลายร้อยคดี เกี่ยวกับการดำเนินการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งพรรครีพับลิกันของทรัมป์นั้นพร้อมทุ่มเงินหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการโฆษณาและดำเนินการฟ้องร้องอย่างถึงที่สุด เพื่อจำกัดการขยายการลงคะแนนทางไปรษณีย์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: