นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศข่าวยืนยันว่าเขาและภริยา เมลาเนีย ทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19 จนถึงวันนี้แม้ว่าเขาจะออกจากโรงพยาบาลและมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลายคำถามที่สร้างความสงสัย ทั้งต้นเหตุของการติดเชื้อที่ยังไม่แน่ชัดว่ามาจากใคร และในระหว่างเริ่มติดเชื้อจนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กระทั่งออกจากโรงพยาบาลนั้น อาการแท้จริงของผู้นำสหรัฐฯ เป็นอย่างไร เวลานี้จึงทราบเพียงข้อมูลลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนทรัมป์ตรวจพบเชื้อ อาการ และวิธีการรักษาบางอย่างที่มีการเปิดเผย รวมถึงชนิดยาบางตัวที่ใช้รักษาทรัมป์ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1 ตุลาคม 2020
- โฮป ฮิกส์ ผู้ช่วยและที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก เธอเป็นหนึ่งในคณะเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามทรัมป์ ไปร่วมงานระดมทุนหาเสียงที่รัฐมินนิโซตา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 กันยายน) ก่อนจะเริ่มรู้สึกป่วยระหว่างเดินทางกลับ ทำให้ต้องแยกตัวออกไปอยู่จุดอื่นของห้องโดยสารเครื่องบิน Air Force One
- ทรัมป์เดินทางไปยังรีสอร์ตในเมืองเบดมินสเตอร์ มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อร่วมงานระดมทุนหาเสียงเป็นการส่วนตัว เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่าพวกเขาทราบว่าฮิกส์มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกเพียงไม่นานหลังจากที่ทรัมป์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ Marine One ออกเดินทางไปนิวเจอร์ซีย์
- ทรัมป์ประกาศในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Fox News ในช่วงเย็นว่าเขาและภริยากำลังตรวจเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นเขาโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่าฮิกส์มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก ซึ่งทั้งเมลาเนียและเขาจะเริ่มต้นกระบวนการกักตัว
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยในภายหลังว่าจริงๆ แล้วทรัมป์ทราบผลตรวจเชื้อเป็นบวกจากการตรวจเชื้อแบบรวดเร็วหลังเดินทางกลับถึงทำเนียบขาว และกำลังอยู่ระหว่างรอผลตรวจเชื้อยืนยันจากห้องแล็บ
2 ตุลาคม 2020
- ทรัมป์ทวีตข้อความสั้นๆ ก่อนเวลา 01.00 น. ว่าเขาและภริยามีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และจะเริ่มต้นกระบวนการกักตัวและรักษาตัวในทันที
- ดร.ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ เผยแพร่แถลงการณ์ว่าประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่งยังคงแข็งแรงทั้งคู่ และมีแผนจะพำนักอยู่ในบ้านพักภายในทำเนียบขาวระหว่างการพักฟื้น
- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่าทรัมป์และภริยาเริ่มมีอาการป่วยอ่อนๆ
- แพทย์ประจำตัวทรัมป์รายงานว่าทรัมป์มีอาการเหนื่อยล้า แต่ยังมีกำลังใจดี ขณะที่ทั้งเมลาเนียและทรัมป์มีอาการไอเล็กน้อยและปวดศีรษะ
- ทรัมป์ได้รับยาแอนติบอดี้ที่ยังอยู่ระหว่างการทดลองของบริษัท Regeneron พร้อมกินยาเสริมธาตุสังกะสีและวิตามินดี, ยาลดกรด และยาเมลาโทนิน สำหรับช่วยให้นอนหลับ รวมถึงยาแอสไพริน
- ทรัมป์ตัดสินใจขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่าเขาจะอยู่ที่นั่น 2-3 วัน
- ทรัมป์โพสต์คลิปวิดีโอทางทวิตเตอร์ โดยกล่าวว่า “ผมคิดว่าผมทำได้ดีมาก แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะออกมาดี”
- ที่โรงพยาบาล ทรัมป์ได้รับยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์
3 ตุลาคม 2020
- ทีมแพทย์เปิดเผยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ตอบสนองการรักษาได้ดี ไม่มีไข้ และไม่มีอาการหายใจลำบาก ดร.คอนลีย์ ถูกถามว่าทรัมป์ใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจนหรือไม่ ก่อนจะมีการเปิดเผยว่าทรัมป์เริ่มมีอาการทั้งไอเล็กน้อย คัดจมูก และเหนื่อยล้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
- มาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เผยต่อผู้สื่อข่าวว่าสัญญาณบ่งชี้อาการของทรัมป์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้นน่ากังวลอย่างยิ่ง และในช่วง 48 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นช่วงสำคัญที่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
- ทรัมป์เผยคลิปวิดีโอใหม่จากในโรงพยาบาล บอกว่าเขารู้สึกดีขึ้นมาก และคิดว่าจะกลับมาแข็งแรงในเร็วๆ นี้
- แพทย์ประจำตัวทรัมป์เปิดเผยข้อมูลอัปเดตว่าทีมแพทย์นั้นค่อนข้างมีความหวัง แต่ย้ำว่าผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่พ้นจากอันตราย
4 ตุลาคม 2020
- ดร.คอนลีย์ เปิดเผยว่าได้ให้ยาเดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ เพื่อรักษาอาการป่วยแก่ประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากที่ระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดของเขาลดลง 2 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าอาการของทรัมป์ดีขึ้นต่อเนื่อง
- โดย ดร.คอนลีย์ เปิดเผยว่าทรัมป์มีไข้สูงและระดับออกซิเจนในเลือดลดลงต่ำกว่า 94% ในวันศุกร์และวันเสาร์ และยืนยันว่าได้ให้ออกซิเจนแก่ทรัมป์ในช่วงเช้าวันที่ 2 ตุลาคม
- ทรัมป์ได้รับยาเรมเดซิเวียร์โดสที่ 2 และทีมแพทย์เปิดเผยว่าเขาอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้อย่างเร็วในวันที่ 5 ตุลาคม เพื่อกลับไปรักษาตัวต่อที่ทำเนียบขาว
- ทรัมป์เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่เขานั่งรถออกไปทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนภายนอกโรงพยาบาลในช่วงเวลาสั้นๆ
5 ตุลาคม 2020
- ทรัมป์ทวีตข้อความว่าเขากำลังจะออกจากโรงพยาบาลและรู้สึกดีจริงๆ พร้อมบอกชาวอเมริกันว่าอย่าไปกลัวโควิด-19
- ดร.คอนลีย์ แถลงข้อมูลอัปเดตว่าทรัมป์อาจจะยังไม่พ้นอันตรายจากโรคโควิด-19 แต่มีอาการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ออกจากโรงพยาบาลได้ และทรัมป์ได้รับยาเรมเดซิเวียร์โดสที่ 3 จากทั้งหมด 5 โดส
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างแถลง ดร.คอนลีย์ ไม่ได้กล่าวถึงผลการสแกนปอดของทรัมป์หรือกระบวนการรักษาอื่นๆ ที่เขาได้รับ และไม่เปิดเผยรายละเอียดข้อกำหนดในการกักตัวของทรัมป์ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
