ศาลสูงสุดรัฐโคโลราโดมีคำตัดสินด้วยมติของผู้พิพากษา 4 ต่อ 3 เสียง ให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในรัฐโคโลราโด สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า เนื่องจากขาดคุณสมบัติที่เหมาะสม เพราะบทบาทของเขาจากการมีส่วนให้กลุ่มผู้สนับสนุนก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ
โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่มีการใช้มาตรา 3 ของการแก้ไขเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับที่ 14 เพื่อตัดสิทธิผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีส่วนในการก่อกบฏ
คำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลกับรัฐอื่นๆ นอกจากรัฐโคโลราโด และจะตัดสิทธิทรัมป์ในการเลือกตั้งขั้นต้นหรือ Primary Vote เพื่อเลือกผู้สมัครของพรรครีพับลิกันภายในรัฐโคโลราโด ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม
ขณะที่คาดว่าอาจส่งผลกระทบต่อสถานะของทรัมป์ในรัฐโคโลราโด สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน แม้ว่าในความเห็นของนักวิเคราะห์จะมองว่ารัฐโคโลราโดนั้นเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต ซึ่งหมายความว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในฐานะผู้สมัครของเดโมแครต มีแนวโน้มจะชนะที่นั่งในรัฐนี้ ถึงแม้ว่าทรัมป์จะไม่ถูกตัดสิทธิก็ตาม
คำตัดสินที่บกพร่อง?
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินต่อศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ในขณะที่ศาลสูงสุดรัฐโคโลราโดระบุว่าจะเลื่อนผลบังคับใช้คำตัดสินออกไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2024 เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นวันก่อนเส้นตายที่รัฐโคโลราโดจะพิมพ์บัตรลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี และเพื่อเปิดทางให้มีการยื่นอุทธรณ์
ขณะที่ สตีเวน เฉิง โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ ออกแถลงการณ์โดยเรียกคำตัดสินนี้ว่า ‘คำตัดสินที่บกพร่องโดยสิ้นเชิง’ และตำหนิผู้พิพากษาซึ่งล้วนได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ว่าการรัฐที่มาจากพรรคเดโมแครต
“ผู้นำพรรคเดโมแครตอยู่ในภาวะหวาดระแวงต่อบทบาทนำของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเลือกตั้ง พวกเขาสูญเสียศรัทธาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ล้มเหลวของไบเดน และตอนนี้กำลังทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อหยุดผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันไม่ให้ไล่พวกเขาออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลสูงสุดรัฐโคโลราโดเขียนในคำตัดสินว่า “ไม่ได้บรรลุข้อสรุปเหล่านี้อย่างง่ายๆ” โดยคณะผู้พิพากษาได้คำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของคำถามต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินในครั้งนี้
“เรายังคำนึงถึงหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเราในการบังคับใช้กฎหมายโดยปราศจากความกลัวหรือความชอบ และไม่ได้รับอิทธิพลจากปฏิกิริยาของสาธารณชนต่อการพิพากษาตามที่กฎหมายให้อำนาจเรา”
ภาพ: Scott Olson / Getty Images
อ้างอิง: