วันนี้ (16 มิถุนายน) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สมองอักเสบ คือโรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อสมอง โดยสาเหตุที่พบมากที่สุด คือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคสมองอักเสบที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ได้แก่ ไวรัสเริม แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือไวรัสเริมชนิดที่ 1 ทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อมีไข้ เป็นแผลตุ่มน้ำใสบริเวณปาก และไวรัสเริมชนิดที่ 2 ทำให้เกิดแผลเริมบริเวณอวัยวะเพศ
นอกจากนี้ยังมีเชื้อไวรัสอื่นที่พบและเป็นสาเหตุของการเกิดโรคสมองอักเสบ ได้แก่ ไข้เลือดออก พิษสุนัขบ้า คางทูม หัดเยอรมัน ซึ่งในปัจจุบันมีการพบภาวะโรคสมองอักเสบจากโรคของภูมิคุ้มกันผิดปกติมากขึ้นด้วย
ทางด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยจะมีอาการคือ มีไข้ ปวดศีรษะนำมาก่อน ร่วมกับมีอาการผิดปกติทางสมองและระบบประสาท เช่น สูญเสียการรับรู้เรื่องบุคคล เวลา และสถานที่ มีพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น กระวนกระวาย หูแว่ว เห็นภาพหลอน อาจมีอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด ถ้ามีอาการรุนแรงมากอาจจะมีอาการชัก หมดสติ ไม่รู้สึกตัว เรียกไม่ตื่น และอาจเสียชีวิตได้
ทั้งนี้หากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจเกิดอาการรุนแรง มีภาวะแทรกซ้อน และมีปัญหาต่อเนื่องในระยะยาวได้ เช่น เป็นโรคลมชัก อาการอ่อนแรง พฤติกรรมผิดปกติ เกิดความผิดปกติของเชาวน์ปัญญา ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม การวินิจฉัยสมองอักเสบจะต้องทำการซักประวัติของผู้ป่วยร่วมกับตรวจร่างกายทางระบบประสาทและสมองอย่างละเอียด แล้วจึงส่งตรวจภาพถ่ายรังสีของสมอง ซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ การตรวจซีทีสแกน และการทำเอ็มอาร์ไอ เพื่อตรวจลักษณะสมองอักเสบหรือลักษณะโรคทางสมองอื่นๆ ร่วมกับการเจาะน้ำไขสันหลัง เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องอันจะนำไปสู่การรักษาเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า