วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) สุทิน คลังแสง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้แถลงญัตติต่อสภา
สุทินใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการอภิปราย โดยเกี่ยวเนื่องในหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ. ประยุทธ์ ซึ่งสุทินกล่าวในช่วงต้นของการอภิปรายว่า “มีคนถามว่าฝ่ายค้านอภิปรายรอบนี้ทำตามประเพณีหรือเปล่า เพื่ออะไร หรือเพื่อล้มรัฐบาล แต่ 4 วันต่อไปนี้ สิ่งที่เราหวังผลจะให้เกิด เรียนตรงๆ หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น”
สุทินระบุว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตนและพรรคฝ่ายค้านมีความหวัง 3 ระดับคือ
- นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนมุมมองต่อปัญหา เปลี่ยนวิธีการทำงาน
- ชี้ให้เห็นว่า 9 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายคือจุดอ่อน ไม่มีประสิทธิภาพ อาจจะนำมาซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรีที่เหมาะสมขึ้น
- หรือนายกรัฐมตรีพิจารณาตัวเอง ลาออก
ส่วนประเด็นการอภิปรายประกอบด้วยประเด็นปัญหาสินค้าเกษตรและพืชผลที่ราคาตกต่ำมาโดยตลอด และยังต้องประสบปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งบ่อยครั้ง ส่วนประเด็นการบริหารประเทศโดยขาดข้อมูล ยกตัวอย่างกรณีข้อมูลจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ซึ่งมีข้อมูลพื้นฐานของประเทศอย่างละเอียด มีมาตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งรัฐบาลควรนำตรงนี้มาประยุกต์ใช้ แต่ปรากฏว่าเมื่อปี 2563 ไม่ได้มีการใช้ข้อมูลตรงนี้ ซึ่งสุทินเปรียบเทียบว่าเหมือนมัดตาเดินบริหารประเทศ
“หวังว่าเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านก็จะได้เข้าใจการทำหน้าที่ของเรา พี่น้องประชาชนก็จะได้เอาข้อมูลที่พวกเราพูดมาทั้งหมดไปคิด และรัฐบาลสำคัญที่สุด ถ้ามันเป็นประโยชน์ท่านเอาไปปรับ ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่เป็นไร คัดออก ปรับไม่ได้ แก้ไม่ตก จนด้วยเกล้า เปลี่ยนให้คนอื่นเขาเป็น เปลี่ยนพวกท่านก็ได้ ไม่ต้องเป็นพวกผมหรอก ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น” สุทินกล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า