สิ้นสุดการรอคอยและกระจ่างข้อสงสัยในทุกๆ ข่าวลือเสียที เมื่อ Disney ประเทศไทยได้ประกาศเปิดตัวบริการสตรีมมิงของพวกเขา ‘Disney+ Hotstar’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ (8 มิถุนายน) โดยมีค่าใช้บริการต่อปีที่ 799 บาท และสามารถรับชมพร้อมกันใน 1 บัญชีสูงสุดที่ 2 จออุปกรณ์ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้รับชมพร้อมกันได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
จุดต่างที่ไม่เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ Disney+ Hotstar มีราคาค่าใช้บริการที่ไม่สูงมาก (799 บาท หรือเฉลี่ย 67 บาทต่อเดือน: Netflix มีค่าใช้บริการสำหรับสมาร์ทโฟนเริ่มที่ 99 บาท ส่วนแพ็กเกจที่ดูได้ 2 จอพร้อมกันเริ่มที่ 349 บาท) และมีเพียงแพ็กเกจบังคับแพ็กเกจเดียวให้เลือกใช้งานเป็นแบบรายปี ไม่สามารถเลือกสมัครรายเดือนได้
ยิ่งถ้าเป็นลูกค้า AIS ก็สามารถสมัครบริการแพ็กเกจพิเศษที่ 35 บาทต่อเดือนได้นานสูงสุดถึง 12 เดือน (จากราคาปกติ 99 บาท) ซึ่งราคาพิเศษนี้จะเปิดให้สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 8-27 มิถุนายน 2564 โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนจะได้รับสิทธิ์ดูเพิ่มฟรีอีก 1 เดือนจาก AIS โดยไม่ต้องชำระค่าบริการในเดือนที่ 2 ของการใช้บริการ (https://www.ais.th/disney/)
ดิสนีย์มองว่า การจับมือกับ AIS ในฐานะผู้ให้บริการที่มีฐานลูกค้าสูงที่สุดในไทย จะเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงผู้บริโภคในไทยได้อย่างหลากหลายในช่วงเปิดตัว
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Disney+ Hotstar ยังได้แก่การรวมเอาคอนเทนต์ออริจินัลระดับแม่เหล็กของ Disney ที่มีอยู่มากมาย ทั้งภาพยนตร์กว่า 700 เรื่อง และซีรีส์กว่า 14,000 ตอน จาก Disney, Marvel, Pixar, Star Wars, National Geographic และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Luca, Raya and the Last Dragon, Soul, Frozen, Toy Story, The Lion King, Pirates of the Caribbean มาให้รับชมได้ทันทีบนแพลตฟอร์ม
และยังมีคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์จากค่ายผู้ผลิตในไทยให้รับชมได้อีกมาก เช่น GDH 559, สหมงคลฟิล์มกรุ๊ป, กันตนา กรุ๊ป และ one31
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ Hotstar จะสตรีมให้รับชมได้ผ่านสองช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ disneyplushotstar.com หรือแอปพลิเคชัน ‘Disney+ Hotstar’ ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
