นับว่าเป็นข่าวช็อกของวงการฮอลลีวูด เมื่อ Disney ดึงตัวผู้บริหารในตำนานอย่าง Bob Iger ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทยาวนานกว่า 15 ปี ให้กลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง ทั้งที่ Bob Chapek ซีอีโอคนปัจจุบัน เพิ่งจะต่อสัญญากับ Disney เพิ่มอีก 3 ปี โดยเริ่มต้นจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และแท้จริงแล้วจะต้องสิ้นสุดลงในปี 2025
Bob Chapek ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารแห่ง Disney แทนที่ Bob Iger ครั้งแรกเมื่อปี 2020 อันเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดสำหรับทั้ง Disney และคนทั่วโลกเนื่องด้วยการระบาดของโควิด ซึ่งถึงแม้ว่า Bob Chapek จะพาบริษัทฟันฝ่าวิกฤตมาได้ แต่ระหว่างนั้นบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารของเขาก็ต้องประสบกับปัญหาอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการถูกนักแสดงคนสำคัญอย่าง Scarlett Johansson ฟ้องร้อง, การต่อสู้กับรัฐฟลอริดาในกรณีการสร้าง Disney World ในพื้นที่รัฐ และยังมีประเด็นที่เขานิ่งเฉยต่อการออกกฎหมาย ‘Don’t Say Gay’ ในฟลอริดา ที่สั่งห้ามไม่ให้สถานศึกษาสอนนักเรียนเรื่องเพศวิถีหรืออัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งสุดท้ายแล้ว Bob Chapek ก็โดนประชาชนกดดันอย่างหนัก จนต้องออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อทาง Disney มีลูกจ้างอยู่ในฟลอริดามากกว่า 75,000 คน
การกลับมาของ Bob Iger ผู้เป็นหนึ่งในผู้บริหารของ Disney ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ The Walt Disney Company จึงเป็นที่ถูกใจของเหล่านักลงทุน โดยหุ้น Disney สูงขึ้น 9% หลังการประกาศข่าว อันเป็นผลพวงจากผลงานที่ผ่านมาของเขา เช่น การเข้าครอบครองแบรนด์ใหญ่อย่าง Pixar, Marvel และ Lucasfilm อีกทั้งยังสามารถปิดสัญญามูลค่า 71 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.5 พันล้านบาท) ในการซื้อลิขสิทธิ์ผลงานส่วนใหญ่ของ 21st Century Fox ได้สำเร็จ และยังเป็นผู้เปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ ซึ่ง Bob Iger ตกลงกลับมาเป็นซีอีโอให้กับ Disney เป็นเวลา 2 ปี เพื่อวางแนวทางและกลยุทธ์ใหม่ให้กับบริษัทเท่านั้น
ภาพ: Charley Gallay / Getty Images for Disney
อ้างอิง: