รมว.คลัง เผย เตรียมเข้าหารือกฤษฎีกา ขอความชัดเจนสถานะของกองทุนน้ำมันฯ ในการกู้ยืมจากแบงก์รัฐ 3 หมื่นล้าน แย้มราคาดีเซลอาจขยับถึงลิตรละ 35 บาทเพื่อลดภาระ ด้านเอกชนวอนรัฐทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง, กระทรวงพลังงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ อยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาทางออกให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐวงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยคาดว่าเบื้องต้นจะต้องหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาก่อนว่า สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถกู้เงินได้หรือไม่
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลจะใช้งบกลางเข้าไปอุดหนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถทำได้ แต่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องหาวิธีการในการช่วยเหลือตัวเองให้เต็มที่ก่อน เนื่องจากปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังมีรายได้เข้ามาทำให้บริหารสภาพคล่องได้อยู่ แม้ว่าสถานะกองทุนฯ จะติดลบกว่า 8 หมื่นล้านบาทก็ตาม
“เพดานราคาน้ำมันดีเซลยังสามารถปรับขึ้นไปได้ถึงลิตรละ 35 บาท หากเงินกู้เข้ามาไม่ทัน การปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพื่อลดภาระกองทุนฯ ก็สามารถทำได้ เพราะยังมีช่องให้ปรับขึ้นได้อยู่ โดยราคาน้ำมันดีเซลล่าสุดอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ก็ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ว่าจะรองรับได้แค่ไหน” อาคมกล่าว
ด้าน สนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร ถือเป็นระดับที่ภาคเอกชนยังรับได้ เพราะเทียบกับตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ราคาดีเซลของไทยยังอยู่ในระดับต่ำกว่า อย่างไรก็ดี หากจะมีการปรับขึ้นราคาก็ควรใช้วิธีทยอยปรับขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาดีเซลกระทบต่อค่าครองชีพและการขนส่ง แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจว่ารัฐบาลคงไม่สามารถบิดเบือนราคาขายปลีกน้ำมันในภาวะที่ตลาดโลกปรับสูงขึ้นได้ตลอด
ขณะที่ เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการได้หามาตรการรองรับในกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นเอาไว้แล้ว โดยสิ่งที่ผู้ผลิตกังวลในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของแพง แต่เป็นเรื่องของหรือวัตถุดิบขาดตลาดมากกว่า เพราะของแพงยังสามารถส่งออกได้ แต่ถ้าของขาดอาจส่งผลกระทบมากกว่า
ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการคงต้องยอมรับความจริงว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นไปที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาเรลมานานแล้ว ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี หากเป็นไปได้ภาคเอกชนก็อยากให้กองทุนน้ำมันฯ หน่วงเวลาการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลไปชนเพดานที่ 35 บาทต่อลิตรให้นานที่สุด และให้ปรับขึ้นแบบขั้นบันได โดยส่งสัญญาณให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาปรับตัว ลดต้นทุนการผลิตในด้านอื่นๆ รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือกมาทดแทน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
