เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (17 กรกฎาคม) ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดี กลุ่ม 16 ของพรรคเล็ก ได้นัดหารือกันเพื่อรับฟังท่าทีทิศทางการเมืองของกลุ่ม รวมถึงทิศทางการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-22 กรกฎาคม ก่อนจะลงมติในวันที่ 23 กรกฎาคม
โดยการหารือในครั้งนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคขนาดเล็กเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เช่น พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม, คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย, ดำรงค์ พิเดช ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, สุรทิน พิจารณ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่, ยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, ภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, ปรีดา บุญเพลิง ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน รวมถึง บุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ภรรยาของ พล.ต. ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย ที่เสียชีวิต
แต่พบว่า ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย หรือตัวแทนพรรคเข้าร่วมการหารือในวันนี้ด้วย หลังจากหลายฝ่ายจับตามองว่า ร.อ. ธรรมนัส จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางกลุ่ม 16 หลังจากเข้าไปกราบลา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด
ภายหลังหารือประมาณ 1 ชั่วโมง พิเชษฐเปิดเผยว่า มีมติว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน แต่จะโหวตอย่างไรขอฟังอภิปรายในสภา เนื่องจากมีหลายประเด็น และรายละเอียดค่อนข่างมาก จึงขอให้สมาชิกกลุ่ม 16 อยู่ในห้องประชุมตลอด แต่ยืนยันว่าตอนนี้กลุ่ม 16 ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ เพียงขอฟังการอภิปรายก่อน เนื่องจากหลายเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของประเทศชาติ ต้องรอฟังว่ารัฐบาลจะชี้แจงอย่างไร
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่ากลุ่ม 16 ยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด เพราะหลายวันที่ผ่านมามีการให้ข่าวว่าพวกตนต้องการเรียกรับผลประโยชน์ จึงต้องออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย
ส่วนตัวมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถือเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องออกมาชี้แจงข้อสงสัย
หากในวันที่ 23 กรกฎาคม มีสมาชิกโหวตสวนมติของกลุ่ม พิเชษฐระบุว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งจากการเดินทางเข้าไปพบ พล.อ. ประวิตร ในวันนี้ก็ไม่ได้มีการสั่งการเรื่องการลงมติแต่อย่างใด
ขณะที่พีระวิทย์เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปพบ พล.อ. ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และได้พบกับ ร.อ. ธรรมนัส และสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย แต่ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ส่วน พล.อ. ประวิตรบอกว่าพรรคเศรษฐกิจไทย 16 เสียง ได้มากราบลาตนเองแล้ว หลังจากนี้ทั้งหมดคงมีทิศทางเป็นของตัวเอง พร้อมทั้งขอให้กลุ่ม 16 อยู่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลและโหวตไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเปรยว่าเสียงของรัฐมนตรีแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน แต่ขออย่าให้ต่างกันเยอะ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่ามีกระแสว่ากลุ่ม 16 เสียงแตกบางส่วนจะไปร่วมกับ ร.อ. ธรรมนัส พีระวิทย์ยืนยันว่า ตอนนี้กลุ่ม 16 ไม่มีเสียงแตก หากจะมีการไปเข้าร่วมกับ ร.อ. ธรรมนัสก็จะต้องไปทั้งกลุ่ม แต่ตอนนี้ยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำพิเชษฐว่าพรรคเล็กจะจับมือกันแน่นไปจนถึงหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นหรือไม่ พิเชษฐตอบว่า ในเมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม 16 ก็ต้องไว้วางใจกันทั้ง 16 คน ยังไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีกระแสย้ายเปลี่ยนใจยกมือโหวตให้ฝ่ายค้าน พร้อมกล่าวอีกว่าได้ฟังการแถลงของโฆษกพรรคเพื่อไทยใช้คำว่า ‘พวก 16 ส.ส. พรรคเล็กเป็นปรสิตคอยเกาะพรรคร่วมรัฐบาล’ ซึ่งมองว่าใช้คำพูดที่แรงมาก ไม่ให้เกียรติ ส.ส. ที่มีเกียรติ จึงอยากฝากผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยไปตักเตือนการใช้ถ้อยคำเสียดสีเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน ไม่ใช่จะมาเหยียบหรือกล่าวหาว่าพวกตนเป็นปรสิตคอยดูดคอยเกาะ มีประโยคอื่นอีกมากมายทำไมไม่ใช้