วานนี้ (19 มกราคม) ดินา โบลัวร์เต ประธานาธิบดีเปรู เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเปิดการเจรจา หลังจากที่วานนี้เกิดเหตุผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกันดุเดือดหลายพื้นที่ของประเทศ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย
“ดิฉันขอเรียกร้องให้มีการเจรจา ดิฉันขอให้ผู้นำทางการเมืองใจเย็นลง และมองประเทศนี้อย่างตรงไปตรงมา เราควรมาพูดคุยกัน” โบลัวร์เตกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวช่วงเย็นวานนี้
การประท้วงที่กินเวลายาวนานหลายสัปดาห์ในเปรูมีขึ้น หลังเปโดร กัสติโย อดีตประธานาธิบดีเปรู วัย 53 ปี ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกจับเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้สนับสนุนกัสติโยอย่างมาก จนทำให้ประชาชนออกมาประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ บวกกับความไม่พอใจของประชาชนต่อสภาพความเป็นอยู่และความไม่เท่าเทียมในประเทศ ซึ่งพวกเขาต้องการให้โบลัวร์เตลาออก และจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ความโกรธแค้นของผู้ชุมนุมทวีความรุนแรงขึ้นพร้อมกับยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 54 รายตั้งแต่เหตุการณ์ความไม่สงบเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 772 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ขณะที่หลายฝ่ายได้โจมตีทางการเปรูที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง รวมถึงมีการใช้อาวุธปืน ส่วนกองทัพโต้ว่าผู้ประท้วงใช้อาวุธและวัตถุระเบิดที่ทำขึ้นเองเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่
โดยวานนี้เหล่าผู้ประท้วงจากทั่วประเทศได้มารวมตัวกันเดินขบวนประท้วงในกรุงลิมา เพื่อเรียกร้องให้โบลัวร์เตก้าวลงจากตำแหน่ง และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วที่สุด ซึ่งภาพจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลเปรูแสดงให้เห็นกลุ่มผู้ประท้วงฝ่าวงล้อมการรักษาความปลอดภัย และรุกคืบเข้าสู่ถนนนอาบันเคย์ (Abancay) ใกล้กับรัฐสภา โดยผู้ประท้วงบางคนได้ขว้างปาสิ่งของและผลักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะตำรวจมีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมบางส่วน
นอกจากกรุงลิมาแล้ว ยังมีการปะทะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในเมืองอาเรกิปา (Arequipa) ทางตอนใต้ โดยผู้ประท้วงตะโกนว่า “ฆาตกร” ใส่ตำรวจ และขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติของเมือง จนต้องประกาศระงับเที่ยวบินไปวานนี้ โดยภาพจากวิดีโอแสดงให้เห็นผู้ประท้วงหลายคนที่พยายามพังรั้วรอบสนามบิน และเกิดควันพวยพุ่งโดยรอบบริเวณดังกล่าว
โบลัวร์เตกล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 22 นาย และพลเรือนอีก 16 รายบาดเจ็บจากการประท้วงในหลายพื้นที่วานนี้ ขณะที่สนามบินในเมืองคุสโคและปูโนได้รับความเสียหาย ส่วนในเมืองลิมานั้นมีเหตุไฟไหม้ใหญ่เกิดขึ้นจนต้องส่งหน่วยดับเพลิงเข้าไปควบคุมสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รัฐบาลเปรูรวมถึงสื่อหลายสำนักโจมตีว่าการประท้วงครั้งนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและการก่ออาชญากรรม แต่ผู้ประท้วงบางส่วนได้เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ขณะที่พวกเขารวมตัวกันในกรุงลิมาว่า “แม้รัฐจะบอกว่าเราเป็นอาชญากร เป็นผู้ก่อการร้าย แต่เราไม่ใช่ เราเป็นคนงาน เป็นคนธรรมดาที่ต้องทำงานตรากตรำ แต่รัฐกลับกดขี่ประชาชน รัฐบาลจำเป็นต้องออกไป พวกเขาไร้ประโยชน์
“ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองสมควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ส.ส. รัฐบาล ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ นั่นคือสิ่งที่ควรจัดการทันที เนื่องจากยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ยังเป็นปัญหา เช่น เงินเฟ้อ การว่างงาน ความยากจน ภาวะขาดสารอาหาร และปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข”
ภาพ: Klebher Vasquez/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: