Jamie Dimon ซีอีโอชื่อดังของ JPMorgan Chase ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่สหรัฐฯ จะประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ พร้อมระบุว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายทะลุระดับ 5% หากการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อมีความหนืด
การออกมาให้ความเห็นของ Dimon ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Jerome Powell ประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณในงาน The Economic Club of Washington, D.C. ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จะทำให้การสู้กับเงินเฟ้อต้องใช้เวลายาวนานกว่าที่คาด ซึ่งบ่งชี้ว่า Fed อาจต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประธาน Fed ย้ำ ‘ขึ้นดอกเบี้ยต่อ’ เป็นสิ่งจำเป็น เหตุตลาดงานยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้ออาจลงยาก
- จับตาวิกฤต ‘เพดานหนี้’ เสี่ยงฉุดสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ป่วนตลาดการเงินโลก
- สรุป 5 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญของ โจ ไบเดน จากงาน State of the Union ประจำปี 2023
“เราไม่ควรรีบประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อเพียงเพราะตัวเลขรายเดือนออกมาดูดี โดยส่วนตัวผมยังคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยไปที่ระดับ 5% แล้วหยุดรอดูสถานการณ์ ถ้าเงินเฟ้อยังค้างอยู่ที่ระดับ 3.5% หรือ 4% ก็มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับดอกเบี้ยขึ้นไปอีก” Dimon ระบุ
ในการสัมภาษณ์กับ Reuters ทาง Dimon ยังพูดถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ในกรณีที่เพดานหนี้สาธารณะของประเทศไม่ได้รับการขยาย โดยระบุว่า หากสถานการณ์ลุกลามและยืดเยื้อไปจนถึงขั้นดังกล่าวก็จะถือเป็นหายนะทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่จะสร้างความเสียหายอย่างถาวรและสามารถทำลายอนาคตของสหรัฐฯ ได้
นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยถึงแผนการจ้างงานเพิ่มจำนวน 500 อัตราของ J.P. Morgan เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในปีนี้ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของสถาบันการเงินคู่แข่งหลายแห่ง เช่น Goldman Sachs และ Morgan Stanley ที่เพิ่งจะปรับลดจำนวนพนักงานกันไป
“เรายังมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มหลายแห่งทั่วโลกในปีนี้ เรามีแผนจะจ้างพนักงานเพิ่ม ทั้งในส่วนที่รับผิดชอบด้านลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ เพราะเรามีลูกค้าที่ต้องดูแลอีกเป็นจำนวนมาก” Dimon กล่าว
อ้างอิง: