วันนี้ (10 พฤศจิกายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงความชัดเจนของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า เงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะต้องเป็นประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากไม่ถึง 5 แสนบาท หากเข้าเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งจะไม่สามารถรับสิทธิ์ได้
โดยมีระยะเวลาการใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 6 เดือน รวมถึงมีการขยายรัศมีการใช้จ่ายในระดับอำเภอที่ระบุไว้ในบัตรประชาชน โดยใช้งบประมาณ 6 แสนล้านบาท ครอบคลุม 50 ล้านคน
ใครได้เงินบ้าง
- แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
- เว้นคนมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท
- ครอบคลุมคนไทย 50 ล้านคน (จากเดิม 54 ล้านคน)
- เริ่มใช้เงินได้เดือนพฤษภาคม 2567
งบประมาณ 6 แสนล้านบาท
- งบ 5 แสนล้านบาท: ออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อใช้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อนส่งสภา
- งบ 1 แสนล้านบาท: จากงบประมาณปี 2567, 2568 และ 2569 สำหรับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
– ใช้ควบคู่กับ E-Refund ระบบการลดหย่อนภาษีดิจิทัล ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค (ช้อปช่วยชาติ) เริ่มใช้ช่วงเดือนมกราคม 2567
– นำเงินไปลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว
เงื่อนไขการใช้จ่าย
- ต้องใช้ภายในอำเภอตามบัตรประชาชน
- เงินต้องใช้ครั้งแรกภายใน 6 เดือน
- โครงการสิ้นสุดเดือนเมษายน 2570
- ประชาชนไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นหรือแลกเป็นเงินสดได้
- ใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น
- ไม่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้
เงื่อนไขการใช้จ่าย (ต่อ)
- ไม่สามารถซื้อสินค้าอบายมุข เช่น เหล้า บุหรี่
- ไม่สามารถซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด เพชร พลอย ทองคำ อัญมณี
- ไม่สามารถชำระหนี้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
- ไม่สามารถจ่ายค่าเทอมได้
- ร้านค้าต้องไม่จด VAT เพื่อรับเงิน
- ร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษี
- ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
การใช้จ่าย
- พัฒนาแอปเป๋าตังร่วมกับการพัฒนาบล็อกเชน เป็นแบ็กอัพเรื่องความปลอดภัย