วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ที่ตึกภักดีบดินทร์ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง แถลงหลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1/2567 ที่มี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า วันนี้มีการประชุมพิจารณาการเติมเงินสู่ระบบดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 2
ทั้งนี้ คิดว่าจะเติมเงินให้ผู้ที่มีความจำเป็นก่อน เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการระบบดิจิทัล เพื่อให้คนที่มีความเข้าใจมาใช้ หลังจากทดลองระบบเรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างนี้จะพิจารณาบุคคลที่มีความจำเป็น คือคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งในกลุ่มนี้มีประมาณ 3-4 ล้านคน ซึ่งสามารถทำได้ทันที ส่วนคนที่เหลือจะดูความพร้อมของระบบ คาดว่าจะได้ช่วงประมาณปีหน้าในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568 โดยจะทบทวนและดูว่าสามารถทำต่อไปได้หรือไม่ โดยมอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า จากการหารือคำนวณว่าจะแจกเฟส 2 ไม่เกินช่วงตรุษจีน หรือปลายเดือนมกราคม 2568 โดยจะเติมเงินให้กับผู้สูงอายุด้วย และดูเรื่องการเปราะบาง ซึ่งต้องลงทะเบียนผ่านระบบทางรัฐในการทำดิจิทัลวอลเล็ตที่ผ่านมา และมีการตรวจสอบสิทธิให้ครบถ้วน ไม่เป็นกลุ่มที่ได้รับไปแล้วในเฟสแรก
จุลพันธ์ยืนยันว่า จะไม่มีการให้คนที่ได้เงินซ้ำ และต้องเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างลำบาก ซึ่งจะโอนเป็นเงินสดโดยวางงบประมาณไว้ที่ 40,000 ล้านบาท ส่วนการดำเนินการสำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะดำเนินการเป็นลำดับถัดไป และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน
ส่วนการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตระยะต่อไปสำหรับการลงทะเบียนไว้แล้วว่า อย่างแรกต้องดูเรื่องความปลอดภัยของระบบ และตรวจสอบระบบให้มีความมั่นใจ เพื่อเป็นแอปกลางของรัฐที่ประชาชนสามารถใช้การได้ ส่วนกรอบเวลาคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ 2 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2568
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมความชัดเจนของโครงการถึงมาหลังจากที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพูดปราศรัย พิชัยกล่าวว่า ไม่ได้หลังจากทักษิณพูด แต่มีการหารือกันมาหลายเดือนแล้ว และพิจารณากันหลายมิติ ส่วนที่ว่าคิดดังจนไปถึงทักษิณนั้น เวลาคิดอะไรสื่อมวลชนก็ได้ยินตลอด อาจจะเป็นเพราะเราคิดดังไปหน่อย