วันนี้ (4 มิถุนายน) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.) เสนอ จำนวน 1.22 แสนล้านบาท สำหรับเป็นงบกลาง แจก ดิจิทัลวอลเล็ต รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการเพิ่มเติม จำนวน 1 หมื่นล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 1.12 แสนล้านบาท
ชัยกล่าวว่า ตามที่ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เห็นชอบในหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้จ่ายจาก 3 แหล่งเงิน ได้แก่
- การบริหารงบประมาณปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
- การดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท
- งบประมาณปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีมติเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568-2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 ประกอบกับตามปฏิทินงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 กำหนดให้ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบนโยบายงบประมาณวงเงินงบประมาณและโครงสร้างงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ในวันที่ 4 มิถุนายน
สำนักงบประมาณได้ประชุมหารือเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยกำหนดวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สำหรับการดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยที่ประชุมได้กำหนดงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท สำหรับเป็นงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ 1 หมื่นล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 1.12 แสนล้านบาท
การดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตจะต้องลงทะเบียนผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการให้ทันภายในปีงบประมาณปี 2567 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 และสอดคล้องตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการทันภายในปีงบประมาณ 2567 จึงอาจพิจารณาผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่เป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.98 ล้านคน ตามขั้นตอนในโอกาสแรกก่อน
ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณปี 2567 จำนวน 3,480,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,602,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 จำนวน 417,000 ล้านบาท (ร้อยละ 13.1) ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568-2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 และสำหรับงบลงทุนฯ และงบประมาณชำระคืนต้นเงินกู้ มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561