วันนี้ (16 มีนาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ พร้อมรับทราบข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมสูงวัย และข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการขับเคลื่อนสังคมสูงวัย
โดยมีการนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารเวลารองรับสังคมสูงวัย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สมาชิกแลกเปลี่ยนบริการขั้นพื้นฐาน โดยบันทึกเวลาไว้ในบัญชีธนาคารเพื่อเบิกเวลามาใช้ยามจำเป็น ซึ่งจะมีผู้จัดการเป็นผู้ประสานการบริการ
สมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีธนาคารเวลาแล้ว 32 ประเทศ ใน 8 ทวีป เช่น นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ซึ่งในประเทศไทยมีการดำเนินงานธนาคารเวลาแล้ว 80 พื้นที่ โดยรูปแบบในประเทศไทยยังเป็นการเก็บเวลาเพื่อแลกกับเวลาเท่านั้น ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพราะต้องการทำให้ทุกคนรู้สึกเท่าเทียม เวลาจึงมีค่าเท่ากันทั้งหมด
ส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราสามารถไปบริการคนอื่นเพื่อเก็บเวลามาใช้ในวันที่เราต้องมีผู้ช่วยไปทำธุระ เช่น ไปซื้อของ ไปโรงพยาบาล โดยที่ประชุมก็มีการเสนอแนะให้เก็บเวลาเป็นดิจิทัลด้วย เพราะจะได้สามารถบันทึกเวลาได้ยาวนาน
สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มีการพิจารณารายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อประกาศสดุดีเกียรติคุณผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมีการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ซึ่งมีผู้ได้รับเสนอรายชื่อจำนวน 53 ราย
โดยเมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้ ธนินท์ เจียรวนนท์ อายุ 85 ปี เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2567 เพราะที่ผ่านมาธนินท์ได้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการขับเคลื่อนโครงการทรูปลูกปัญญา เป็นการมอบโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม พร้อมสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนของชาติมาเป็นเวลากว่า 40 ปี จึงประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องให้เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ