Destination Capital PTE. LTD. (DC) ผนึกบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ลงนามในสัญญาก่อตั้งทรัสต์เพื่อระดมทุนจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust เพื่อซื้อธุรกิจโรงแรมในไทย พร้อมวางเป้าหมายให้โอกาสผลตอบแทนที่ดีระยะยาวให้กับนักลงทุนที่ประมาณ 15% ต่อปี ในระยะเวลา 5-7 ปี
เจมส์ แคพแลน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล พีทีอี จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทก่อตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์โรงแรมและรวบรวมเงินลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงแรมและรีสอร์ตที่มีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนจัดตั้งทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน DESCAP 1 Private Equity Trust หรือ ‘กองทรัสต์’ โดยมีพันธมิตรจาก KTBST SEC ทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Settlor and Trust Manager) และ MFC เป็นทรัสตี (Trustee)
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ DESCAP 1 Private Equity Trust มีโมเดลธุรกิจในการร่วมทุนพัฒนาธุรกิจเพื่อเข้าไปซื้อกิจการรีสอร์ตและโรงแรมในเมืองใหญ่ และนำมาปรับปรุงตกแต่ง (Renovate) พร้อมเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด (Reposition) และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (Rebrand) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินทรัพย์ สร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น และนำกำไรจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในกองทรัสต์ (ผู้ถือหน่วยทรัสต์) ซึ่งด้วยประสบการณ์ของเดซติเนชั่นกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนานกว่า 24 ปีที่เข้าซื้อกิจการโรงแรมและเพิ่มมูลค่า จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถพัฒนาโรงแรมให้มีมูลค่าเพิ่มและสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้
“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยการระดมเงินเพื่อจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust นี้ได้รับความร่วมมือจาก KTBST SEC ในฐานะ Trust Manager เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมมือในการช่วยระดมเงินทุนจากนักลงทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจโรงแรม หลังจากที่ได้รับผลกระทบในช่วงล็อกดาวน์ บางส่วนขาดสภาพคล่องจนต้องปิดกิจการ ให้สามารถกลับมาเดินหน้าเปิดบริการได้อีกครั้ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความพร้อมให้กับธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และให้ประเทศไทยเป็นประเทศเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก (Global Travel Destination)” เจมส์กล่าว
เจมส์กล่าวเพิ่มเติมว่า DESCAP 1 Private Equity Trust ยึดเป้าหมายการลงทุนในประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากมีโอกาสที่การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นฟูได้ หลังจากที่ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวสูงถึง 40 ล้านคนต่อปี แต่ในปี 2563 ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการระบาดของโควิด-19 จึงคาดว่าจะเหลือจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 7 ล้านคนต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 นักท่องเที่ยวทั้งหมดได้เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 แล้ว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2564 หลังจากที่มีวัคซีนออกมา และสายการบินเริ่มกลับมาบินตามปกติ
โดยกองทรัสต์นี้จะเข้าซื้อกิจการโรงแรมและรีสอร์ตที่ได้กรรมสิทธิ์ 100% (Freehold) ในทำเลเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน และภูเก็ต เพราะมีโอกาสฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุด
ณัฐพงศ์ ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTBST SEC เปิดเผยว่าการเตรียมระดมเงินทุนเพื่อจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust มีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มหลักๆ คือนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมสามารถนำเงินมาลงทุนในกองทรัสต์ได้ โดยกองทรัสต์มีแผนที่จะระดมทุนเพื่อซื้อกิจการโรงแรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ และเป็นการสร้างและพัฒนาธุรกิจโรงแรมเพื่อรองรับการเติบโตจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศที่สร้างรายได้อย่างมาก
ทั้งนี้ กองทรัสต์นี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และคาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนในและต่างชาติที่สนใจจองซื้อหน่วยทรัสต์ในช่วงเดือนตุลาคม โดยมีมูลค่าจัดตั้งกองทรัสต์เป้าหมายอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยกองทรัสต์นี้มีระยะเวลาการลงทุน 5 ปี และขยายเวลาลงทุนได้อีกไม่เกิน 2 ปี และมีผลตอบแทนเป้าหมายที่ 15% ต่อปี*
ทั้งนี้ KTBST SEC ได้รับการติดต่อจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งมีความประสงค์จะเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมองเห็นโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และเชื่อมั่นในผลงานที่ผ่านมาในการบริหารโรงแรมของ DC ซึ่งเป็นผู้บริหารสินทรัพย์กองทรัสต์นี้
ทั้งนี้ การลงทุนผ่าน Private Equity Trust แม้ว่าจะเป็นธุรกรรมที่ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ในต่างประเทศมีการดำเนินการมานานแล้ว ซึ่งการลงทุนในกองทรัสต์สามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนที่สูงให้กับผู้ลงทุน
“ด้วยประสบการณ์ของ KTBST SEC ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Settlor and Trust Manager) และ MFC ในฐานะทรัสตี และบริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล พีทีอี จำกัด ในฐานะผู้บริหารสินทรัพย์ (Asset Manager) ที่นำเงินไปลงทุนเพื่อช่วยธุรกิจโรงแรมให้มีสภาพคล่องและช่วยสร้างมูลค่าให้สินทรัพย์ ถือเป็นประโยชน์กับทั้งเจ้าของธุรกิจ และเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนได้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายขึ้นในพอร์ตการลงทุน” ณัฐพงศ์กล่าว
*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์