จากกรณีที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แถลงยกเลิกสัญญาการเช่ากําไลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring: EM) กับ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา หลังพบว่า ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุดมีการแจ้งไปยังบริษัท สุพรีมฯ ให้รับทราบเรื่องนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ชดใช้ค่าปรับให้กรมคุมประพฤติเป็นจำนวนเงิน 83 ล้านบาท เนื่องจากทำผิดสัญาญาถึง 4 ประเด็น คือ การส่งมอบอุปกรณ์ EM ล่าช้า การไม่นำอุปกรณ์ EM จำนวน 4,000 เครื่องมาเปลี่ยนให้ใหม่ ตามเวลากำหนด 26 วัน ค่าเสียหายกรณีไม่มีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานประจำในศูนย์ EM เซ็นเตอร์ นานถึง 1 เดือน และค่าปรับความเสียหาย ภายหลังบอกเลิกสัญญา กรณีกรมคุมประพฤติไม่สามารถใช้งบประมาณได้ โดยค่าเสียหายจำนวนทั้งหมดนี้ บริษัท สุพรีมฯ ต้องจ่ายให้กรมคุมประพฤติภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2562
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าการยกเลิกไม่กระทบกับการคุมประพฤติ เพราะคนที่ต้องถูกคุมประพฤติตามคำสั่งของศาลที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมคุมประพฤติ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นๆ ของศาล เช่น การรายงานตัวและการบำเพ็ญประโยชน์ โดยกรมคุมประพฤติได้แจ้งการยกเลิกใช้กำไล EM ให้ศาลยุติธรรมทราบแล้ว อีกทั้งศาลยุติธรรมก็มีศูนย์ EM เซ็นเตอร์ที่ใช้ควบคุมผู้ต้องหา ที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน สำหรับปัจจุบันมีผู้ถูกใส่กำไลคุมประพฤติประมาณ 540 คน โดยกรมคุมประพฤติทำหนังสือแจ้งไปศาลแต่ละจังหวัด เพื่อให้ยกเลิกการใช้กำไลดังกล่าวแล้ว ซึ่งบางส่วนทยอยถอดออกแล้วด้วย
ส่วนการจะนำกำไล EM มาใช้ในอนาคต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูง แต่ต้องมีการร่างสัญญาให้รัดกุม แต่ยืนยันว่า ในปีนี้ยังไม่มีงบประมาณ จึงยังไม่มีการเปิดประมูลใหม่ ส่วนบริษัทเดิมจะเข้ามายื่นประมูลได้อีกหรือไม่ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมคุมประพฤติ
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการยกเลิกสัญญาดังกล่าว คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้พบว่ากำไล EM ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบปัญหาในหลายกรณี เช่น สามารถถอดออกจากข้อมือได้โดยไม่ต้องใช้สายตัด และสามารถสวมกลับเข้าไปได้ ขณะที่ผู้ถูกคุมประพฤติหลายรายเกิดอาการแพ้ มีผื่นแดง มีแผลติดเชื้อบริเวณข้อมือ นอกจากนี้ยังพบการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดจากระบบบ่อยครั้ง จนต้องมีการยกเลิกสัญญาในท้ายที่สุด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์