×

เฉลิมชัยนำประชาธิปัตย์สู่ทศวรรษที่ 8 ยืนยันไม่ผิดอุดมการณ์ เปิดพื้นที่คนรุ่นใหม่ ไม่ใช่พรรคไดโนเสาร์

โดย THE STANDARD TEAM
06.04.2025
  • LOADING...
democrat-party-new-era

วันนี้ (6 เมษายน) พรรคประชาธิปัตย์จัดงานฉลองในโอกาสครบรอบ 79 ปี ภายใต้แนวคิด ‘ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8’ โดยมี เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี

 

จากนั้นพรรคฯ ได้จัดพิธีพราหมณ์ เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม องค์สัญลักษณ์สำคัญของพรรค สำหรับปีนี้พรรคฯ ได้เชิญพราหมณ์จากเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ มาเป็นผู้อ่านโองการ ส่วนพิธีทางศาสนาพุทธ พรรคฯ ได้นิมนต์สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

 

สำหรับบรรยากาศงานฉลองในโอกาสครบรอบ 79 ปี พรรคฯ ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้บริหารพรรค สส.ของพรรค ตลอดจนหน่วยงาน และภาคเอกชน จัดซุ้มอาหารนานาชนิดสำหรับรองรับแขกผู้ร่วมงานได้อิ่มอร่อย และที่พิเศษไปกว่าทุกปี ทางพรรคได้จัดกิจกรรมให้ผู้มาร่วมงานร่วมสนุกตอบคำถามพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์ กับบรรดาผู้มาร่วมงานทั่วหน้าให้ได้รับความสนุกคึกคัก ทำให้งานในปีนี้อบอวลไปด้วยความอบอุ่นภายใต้ความเป็นกันเองของหมู่บรรดาผู้บริหาร สส.ของพรรค

 

นอกจากนี้พบว่ามีบรรดาแกนนำต่างพรรคการเมือง อาทิ ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่ 2 วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สส.ศรีสะเกษ จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และบรรดาแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการ ตลอดจนสื่อมวลชนมาร่วมเป็นเกียรติเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์ ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 8

 

เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีพบปะสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานจำนวนมาก ในโอกาสครบรอบ 79 ปี ภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8” โดยกล่าวว่า “นับตั้งแต่ปี 2489 วันที่ตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีพัฒนาการต่างๆ มาเป็นระยะ มาจนกระทั่งผมมาเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ประชาธิปัตย์ครบ 79 ปีบริบูรณ์ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 8 ร่วมกัน ผมตั้งใจจะพูดถึงแนวทางการทำงานของพรรคฯ ในวันประชุมใหญ่ของพรรคฯ วันที่ 26 เมษายน 2568 โดยตั้งใจจะพูดถึงการที่ผมมาพร้อมกับกรรมการบริหารทุกคนจะพาพรรคเดินไปแบบใด”

 

การที่หลายๆ คนกำลังมองว่าตนจะทำพรรครอดหรือไม่ นี่คือโจทย์ที่ท้าทายที่สุด เป็นทั้งแรงกำลังใจที่ผมจะต้องนำความสบประมาทมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ และยืนยันว่าไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนประชาธิปัตย์ไม่เคยผิดหลักการและอุดมการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งพรรค ซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือหัวใจของการเมืองไทย หัวใจของประเทศไทย

 

“ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร ไม่ว่าเขาจะรู้จักประชาธิปัตย์มากหรือน้อย เขาจะรักหรืออยากทำลายประชาธิปัตย์ก็แล้วแต่ แต่ประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของผม ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหลักการและอุดมการณ์อย่างเด็ดขาด ผมขอขอบคุณพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในพรรคฯ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรค และ สส. ของพรรคจะไม่ทำให้ผิดหวัง”

 

เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่ผมติดตัวอยู่ในไขสันหลัง ไม่ใช่เลือดแต่มากกว่า ผมจะไม่มีวันเนรคุณพี่น้องประชาชน และประเทศชาติอย่างเด็ดขาดประชาธิปัตย์จะเดินหน้าไปข้างหน้าได้ด้วยเอกภาพของพวกเราทุกคน ให้เทวดาคนใดคนหนึ่งมาคนเดียวก็ทำไม่ได้หรอก สิ่งที่ผมได้ทำมาในรอบปีก็คือการสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค ประชาธิปัตย์กำลังเดินไปข้างหน้า อาจจะไม่ได้วิ่ง อาจจะไม่ได้ปีนภูเขา แต่เราค่อยๆ ขึ้นเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อผมมั่นใจว่าประชาธิปัตย์เราตั้งมั่นได้แล้ว ผมจะพาประชาธิปัตย์ลุยเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง และเป็นพรรคเดียวที่มีตัวแทนจังหวัดพร้อมส่งผู้แทนทั้ง 77 จังหวัด

 

“เพราะรากฐานเดิมของประชาธิปัตย์คือสมาชิกพรรค สาขาพรรค ตัวแทนพรรค เราได้ดำเนินการมาประมาณ 6 เดือน ด้วยกันเดินอย่างมั่นคง ไม่ได้เดินแบบฉาบฉวย ไม่มีนักการเมืองคนไหนในประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการซื้อเสียง วันนี้นครศรีธรรมราช เขต 8 ผมบอกชินวรณ์ บุณยเกียรติ (ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมฯ หมายเลข 2) ว่า ให้ประกาศตั้งแต่วันแรกว่า ประชาธิปัตย์จะไม่ซื้อเสียง คนที่ต้องการประชาธิปไตยไม่เห็นมาเชียร์ผมเลยสักนิด ผมยืนในหลักการที่ถูกต้อง”

 

เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นเชื่อถือได้แค่ไหน ท่านทราบมั้ยว่า ผมเป็น สส. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4 สมัย เป็นคนที่ในทางการเมืองบอกว่าสอบตกยากที่สุด เปอร์เซ็นต์สอบตกเป็นศูนย์ ผมยึดมั่นในความเป็นประชาธิปัตย์ ยึดมั่นในความเป็นประชาธิปไตยสุจริต ชีวิตผมไม่เคยซื้อเสียงเลย ไม่เคยซื้อเสียงเลยแม้แต่เสียงเดียว และวันที่ผมแพ้ คนถามผมว่าทำไมไม่ซื้อ ผมบอกว่าขอให้ผมเป็นนักการเมืองในความตั้งใจของผมสักคนได้มั้ย การเลือกตั้งปี 2562 ผมแพ้ไป 106 เสียง ผมไม่ขอนับคะแนนใหม่

 

แต่ผมภูมิใจว่าชีวิตทางการเมืองของผมไม่เคยซื้อเสียง คนที่บอกว่าอย่าซื้อเสียง ไม่เคยให้กำลังใจผมด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังยึดมั่นอย่างนั้น เพราะชีวิตผมอยากบันทึกไว้ว่า ผมไม่เคยซื้อเสียง เพราะผมจะไม่ลง สส. เขตอีกแล้ว แล้วมันก็จะเป็นประวัติกับตัวเองว่า ชีวิตทางการเมืองของผมทั้งชีวิตไม่ซื้อเสียง ถ้าบอกว่าการเมืองต้องสุจริต ต้องไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีอามิสสินจ้าง ก็มาช่วยกัน มาช่วยประชาธิปัตย์วันนี้ มาช่วยผมมาช่วยพวกเราทุกคน ผมจะทำการเมืองสุจริตคนเดียวได้อย่างไร ถ้าผมไม่มีพี่น้องประชาชนไม่มีสมาชิกพรรคคอยเป็นกำลังใจให้ผม คอยอยู่ข้างหลังผม”

 

เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ตนเองต้องการนำพรรคประชาธิปัตย์ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 ด้วยศักดิ์ศรี ด้วยการเป็นพรรคการเมืองที่มีหลักการและอุดมการณ์ที่ชัดเจน ผมมั่นใจว่าประชาธิปัตย์เกลียดการทุจริต เพราะฉะนั้น วันที่ประชาธิปัตย์ไปเป็นรัฐบาล เงื่อนไขอย่างหนึ่งคือจะต้องไม่มีการทุจริต ถ้ามีการทุจริตและไม่มีการดำเนินการประชาธิปัตย์ก็ร่วมไม่ได้”

 

“การตัดสินใจทางการเมืองในความเป็นนักการเมืองมีได้ 2 อย่าง 1. เป็นฝ่ายค้าน 2. เป็นรัฐบาล มีพรรคการเมืองไหนบอกว่าเป็นกลางๆ ผมยังไม่เคยเห็น และผมก็ไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหนที่ตั้งพรรคมาแล้วบอกว่าผมจะขอเป็นฝ่ายค้านทั้งชีวิต ผมว่าชาวบ้านคงไม่เลือกหรอก เพราะจะเลือกไปทำไม ในเมื่อไปแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ แต่การไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีเหตุและผล จะต้องมีการพิจารณาว่าสถานการณ์นั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของประชาธิปัตย์ทุกครั้งเป็นการตัดสินใจโดยรวมเพื่อพรรคเป็นหลัก”

 

“หากต้องการเห็นประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า เป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีหลักการและอุดมการณ์กลับมาอีกครั้ง ขอให้ช่วยกันบอกพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ มาช่วยกันบอกพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ขอ สส.กรุงเทพฯ กลับคืนมา”

 

เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ผมจะนำพาพรรคไปในทิศทางที่ถูกต้องในสิ่งที่ดีที่สุด ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพรักขอบคุณ ขอบคุณท่านที่มาร่วมงาน ในขณะที่ทุกคนบอกว่าประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ไม่มีใครเอาประชาธิปัตย์ แต่หลายท่านยังกล้าเดินมาเคียงคู่กับพวกเรา ขอให้ทราบว่าวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังเปลี่ยน วันนี้พื้นที่ที่จะให้คนรุ่นใหม่มีที่ยืนในประชาธิปัตย์มากขึ้น วันนี้ทุกคนจะไม่มีสิทธิ์มาเรียกประชาธิปัตย์ว่าไดโนเสาร์อย่างเด็ดขาด”

 

พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังได้กล่าวเชิญชวนสมาชิกพรรค ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญของพรรค ในวันที่ 26 เมษายน 2568 นี้ ซึ่งจะได้มีการเปิดเผยถึงแนวทางการทำงาน ตลอดจนทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising