วันนี้ (10 มีนาคม) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้เชิญประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) วันศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เวลา 14.00 น. และจะมีการประชุมร่วม กก.บห. และ ส.ส. ในวันเดียวกัน เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งในการประชุมดังกล่าวมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ
ราเมศกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีผู้ใดบ้างที่ถูกเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะเป็นอำนาจของ กก.บห. ที่จะเป็นผู้นำเสนอในที่ประชุม เพื่อให้ที่ประชุมร่วมระหว่าง กก.บห. และ ส.ส. ได้พิจารณาอีกครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่มีบุคลากรมีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถหลายคน และพร้อมที่จะเข้าไปทำงานให้กับประชาชน อีกทั้งไม่มีความกังวลว่าหากมีผู้ไม่ได้รับตำแหน่งจะเป็นเหตุให้เกิดปัญหา เพราะทุกคนในพรรคฯ ยอมรับกระบวนการที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค
ส่วนกรณีของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังอยู่ระหว่างรอพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 17-18 มีนาคมนั้น ราเมศกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความจริงใจในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาโดยตลอด ตั้งแต่การยื่นเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และรัฐบาลก็บรรจุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน จนนำไปสู่การที่มี ส.ส. ของพรรค ยื่นให้มีการตั้ง กมธ. วิสามัญ เพื่อศึกษาในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จนต่อมามีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา
“จากการตั้งต้นนี้เป็นความตั้งใจของพรรค ในการผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ในชั้นการพิจารณาของรัฐสภา ก็จะเห็นว่าจากการที่มี ส.ส. บางพรรคได้เสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ก่อนรับหลักการ ซึ่งพรรคก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค ในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน และมีความจริงใจ โดยพรรคต้องการให้มีการดำเนินกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามครรลองที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้” ราเมศกล่าว
ราเมศกล่าวอีกว่า ในเวลาต่อมา จากการที่มี ส.ส. จำนวนหนึ่งยื่นญัตติต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้มีการส่งญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ร่างรัฐธรรมนูญชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ พรรคก็เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว รัฐสภาสามารถดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ พรรคจึงไม่เห็นด้วยที่มี ส.ส. ยื่นญัตติ แต่เมื่อที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติให้ส่งญัตติดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความชอบของรัฐธรรมนูญ โดยในวันพรุ่งนี้ (11 มีนาคม) ก็จะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคก็จะได้ติดตามรับฟังอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใด พรรคก็พร้อมน้อมรับในคำวินิจฉัย
สำหรับในขณะนี้ ราเมศกล่าวว่าพรรคต้องรอพระราชกฤษฎีกาให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญก่อน และหลังจากนั้นก็จะมีการเรียกประชุม ทั้งนี้ มีร่างกฎหมายที่อยู่ในระเบียบวาระประกอบด้วย ร่างกฎหมายที่ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูป กฎหมายการทำประชามติ รวมไปถึงร่าง พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งที่ประชุมก็จะได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
