วันนี้ (9 กรกฎาคม) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้มีการเสนอชื่อผู้ประสงค์สมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่เนื่องจากยังไม่ครบองค์ประชุม มีเพียง 221 เสียง ไม่ครบ 250 เสียง และพบว่า ผู้เข้าร่วมองค์ประชุมบางส่วนหายไป มีเก้าอี้ว่างจำนวนมาก ต่อมาที่ประชุมขอเลื่อนการประชุมไปในเวลา 15.00 น. และเมื่อถึงเวลา มีการเริ่มนับองค์ประชุมใหม่อีกครั้ง พบว่าองค์ประชุมลดลงเหลือเพียง 201 เสียง ทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่า เมื่อที่ประชุมไม่ครบก็ไม่สามารถประชุมต่อไปได้ จะต้องเลิกการประชุม โดยตนจะต้องหารือกับเลขาธิการพรรคเพื่อนัดการประชุมครั้งถัดไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บคูหาที่ใช้สำหรับลงคะแนนเพื่อโหวตเลือกหัวหน้าพรรคทันที
ด้าน มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งในผู้ที่เสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ล่มว่า เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือแผน คณะกรรมการไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้ว่าจะมีญัตติเสนอก่อนหน้าการเข้าวาระ ซึ่งระหว่างที่มีการเสนอ 2 ญัตติจะต้องมีการแสดงความคิดเห็นของสมาชิก ทำให้เสียเวลาไปในช่วงครึ่งเช้า ทำให้องค์ประชุมที่มาจากต่างจังหวัดที่วางแผนเดินทางกลับจึงได้กลับไปก่อนบางส่วน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ
ส่วนที่มีสมาชิกพรรคหลายคนนั่งอยู่ภายนอกไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม มองแล้วเป็นความขัดแย้ง 2 ขั้วหรือไม่ มัลลิกากล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันถ้าให้ความเป็นธรรม องค์ประชุมต่างจังหวัดจำนวนหนึ่งเขาจองตั๋วเครื่องบินไว้จริงๆ และไม่มีใครเดาได้ล่วงหน้าว่าจะมีการเสนอญัตติในช่วงเช้าที่ใช้เวลานานเกินไป จึงต้องมีการเลื่อนการประชุมออกไป 30 วัน ตามข้อบังคับของพรรค แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่าในห้องประชุมดุเดือดหรือไม่ เนื่องจากมีการรายงานข่าวว่ามีการถามหาสาธิตที่ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม มัลลิกากล่าวว่า ไม่หรอก พรรคประชาธิปัตย์เราเป็นเวทีเสรีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นรวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างการประชุมเป็นเรื่องปกติ