วันนี้ (29 กันยายน) เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำหนดแจกกลุ่มเปราะบาง ทั้งกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ รวม 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาท ผ่านการโอนเข้าบัญชี
เจนจิราระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินสด 10,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวได้รับทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงท้วงติงจากหลายภาคส่วน รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์เองได้เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งแต่เรื่องที่มาของงบประมาณ ตลอดจนวิธีการ และความคุ้มค่าของโครงการ จนในที่สุดรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนแนวทางและรายละเอียดจนสามารถแจกเป็นเงินสดถึงมือพี่น้องประชาชนได้สำเร็จเป็นระยะแรก
เจนจิรากล่าวว่า การนำนโยบายในการหาเสียงมาปฏิบัติเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงท้วงติง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนโยบายของพรรคการเมืองเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนจริงๆ
“การที่รัฐบาลยอมปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน จากการแจกดิจิทัลวอลเล็ต 50 ล้านคน รอบเดียว มาเป็นจ่ายเงินสด 10,000 บาท โดยเริ่มต้นที่กลุ่มเปราะบางก่อน ส่วนหนึ่งมองได้ว่าเป็นการยอมรับฟังเสียงท้วงติงจากทุกภาคส่วนในสังคม และจะเป็นการเก็บบทเรียนเป็นแนวทางทำให้การดำเนินการสำหรับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการนำเงินงบประมาณไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ตรงตามเป้าหมายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นอกจากนี้เจนจิรายังมองว่าการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางในครั้งนี้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น ในภาวะที่ประเทศเผชิญภัยพิบัติธรรมชาติ กระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง รัฐบาลจะต้องมีแนวทางสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวเพื่อให้ประเทศฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการนโยบายในเรื่องอื่นต่อๆ ไปของรัฐบาล ต้องรับฟัง ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็เชื่อได้ว่ารัฐบาลนี้จะสามารถสร้างผลงานได้สำเร็จอีกหลายๆ เรื่อง และจะเป็นแบบอย่างของการปรองดองในชาติต่อไป