สปป.ลาว เผชิญกับปัญหาหนี้สินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในปีที่แล้ว ทำให้รัฐบาลต้องขอเลื่อนการชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งสูงเกินกว่ามูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ
รายงานจากกระทรวงการคลังของ สปป.ลาว เผยว่า การชำระหนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 507 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.85 หมื่นล้านบาท) ในปี 2022 เป็น 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท) ในปี 2023 ส่งผลให้ สปป.ลาว ต้องขอเลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) ในปี 2023 รวมถึงภาระหนี้สินที่เลื่อนชำระไปแล้ว 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.44 หมื่นล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2020
สถาบันการเงินระหว่างประเทศและหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือเตือนว่า ภาระหนี้ของ สปป.ลาว ทำให้ประเทศที่มีประชากรเกือบ 8 ล้านคนมีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ท่ามกลางปัญหาสภาพคล่อง
ณ สิ้นปีที่แล้ว สปป.ลาว มีหนี้สาธารณะและหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันรวม 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.02 แสนล้านบาท) ลดลงเพียง 1% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 108% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยประมาณครึ่งหนึ่งของหนี้รัฐบาลต่างประเทศของ สปป.ลาว เป็นหนี้ของจีน
รัฐบาล สปป.ลาว ตั้งเป้าที่จะลดอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลงประมาณ 5% ภายในปี 2025 จาก 94% ในปีที่แล้ว โดยพยายามเพิ่มรายได้ ลดการกู้ยืม และการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาระหนี้สินจะยังคงอยู่ในระดับสูงในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าการชำระหนี้ต่างประเทศต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท) ระหว่างปี 2024-2028
นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังมีความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินภายในประเทศที่อ่อนค่าลง โดย 59% ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินกีบของ สปป.ลาว ยังอ่อนค่าลง 31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งอัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการอ่อนค่าลงของเงินกีบจะทำให้การชำระหนี้ของ สปป.ลาว เป็นเรื่องยากขึ้น
จีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว กล่าวว่า กำลังช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในการบรรเทาภาระหนี้สินมหาศาล โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า ปักกิ่งได้ดำเนิน ‘ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน’ กับประเทศกำลังพัฒนา รวมถึง สปป.ลาว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม “ในขณะเดียวกันก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยประเทศที่เกี่ยวข้องในการบรรเทาภาระหนี้” เขากล่าวเสริม
ปัญหาหนี้สินของ สปป.ลาว เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลโจ ไบเดน พยายามเสนอทางเลือกให้กับประเทศกำลังพัฒนา ในการรับมือกับการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ สหรัฐฯ มักมองความพยายามของจีนว่าเป็น ‘มายาการทูตด้วยภาระหนี้’ เนื่องจากประเทศต่างๆ เช่น ศรีลังกาและปากีสถาน กำลังดิ้นรนกับการชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนปฏิเสธข้อกล่าวหา ‘มายาการทูตด้วยภาระหนี้’ โดยอธิบายว่า เป็นวาทกรรมจากสหรัฐฯ ที่มุ่งทำลายความร่วมมือของจีนกับประเทศกำลังพัฒนา โดยย้ำคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรกับ Bloomberg ชัดเจนว่า “มันไม่สามารถหลอกลวงประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ได้.
ภาพ: Lauren DeCicca / Getty Images
อ้างอิง: