ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเผชิญกับคลื่นความร้อนแผดเผา (Heat Wave) ทำให้อุณหภูมิบางพื้นที่พุ่งขึ้นสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทางการรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมล่าสุดไต่ขึ้นเป็น 30 รายแล้ว หลังวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ราย
NHK รายงานว่า ชาวญี่ปุ่นหลายพันรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการที่เกิดจากความร้อนสูงเกินร่างกายมนุษย์จะรับได้
ใจกลางประเทศญี่ปุ่นอุณหภูมิพุ่งสุงถึง 40.7 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ขณะที่เมืองอื่นๆ อย่างเกียวโต อุณหภูมิอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 7 วัน เป็นครั้งแรกในรอบกว่าร้อยปี
กระทรวงศึกษาธิการประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศให้โรงเรียนทุกแห่งงดเว้นกิจกรรมที่อาจเกิดอันตรายกับร่างกาย เช่น Heat Stroke หลังมีข่าวเด็กชายวัย 6 ปี เสียชีวิตจากการกิจกรรมกลางแจ้งในจังหวัดไอจิ
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นเตือนให้ประชาชนดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะอ่อนเพลียจากความร้อนจัด และเตือนให้อยู่ภายในอาคาร ใช้เครื่องปรับอากาศ รวมถึงการดื่มเกลือแร่ พร้อมระบุความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น คือต้นเหตุของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
“มันร้อนมาก ขนาดในฮิโรชิมายังร้อนมาก” โคเซอิ มิโต อาสาสมัครมัคคุเทศน์กล่าวกับ The Guardian โดยอุณหภูมิในฮิโรชิมาสูงประมาณ 36.7 องศาเซลเซียส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.)
ทางการคาดว่า อุณหภูมิจะสูงแบบนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายวัน ซึ่งทำให้การทำงานกู้ภัยน้ำท่วมทางตะวันตกของญี่ปุ่นเป็นไปอย่างลำบาก อาสาสมัครหลายคนต้องเผชิญกับความร้อน โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน จากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม
Photo: Reuters
อ้างอิง: