DBS คาดดีมานด์คริปโตฯ ทั่วโลกพุ่ง ดันแพลตฟอร์มดิจิทัลคึกคัก หลังนักลงทุนเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น

DBS ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อประเมินจากมูลค่าสินทรัพย์ ออกมาคาดการณ์ทิศทางตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโลกว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีนับจากนี้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนกลุ่มสถาบันให้การยอมรับกับสถานะของสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซีกันมากขึ้น

การคาดการณ์ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีของทางธนาคารอย่าง DBS Digital Exchange ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด แม้จะเป็นบริการที่เปิดให้เฉพาะผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกเท่านั้นก็ตาม โดยความต้องการส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนกระเป๋าหนัก และบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่ดูแลสินทรัพย์ให้กับบรรดาครอบครัวเศรษฐีทั้งหลาย

ธนาคาร DBS ประเมินว่า บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ว่านี้จะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปัจจุบันมาอยู่ที่ 1,000 คนภายในเดือนธันวาคมนี้ และจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 20-30% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

รายงานระบุว่า ธนาคาร DBS เริ่มให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่แวดวงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจังภายใต้การกุมบังเหียนของ Piyush Gupta ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารในช่วงกว่า 8 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถรองรับระบบ Cloud Computing และบริการดิจิทัลต่างๆ ได้ โดยปัจจุบัน DBS ได้ชื่อว่าเป็นธนาคารรายใหญ่เพียงรายเดียวเท่านั้นที่ให้บริการด้านคริปโตเคอร์เรนซีอย่างครบวงจรเริ่มต้นตั้งแต่บริการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี การเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นโทเค็น และบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น เช่น Standard Chartered ที่ตั้งหน่วยงานย่อยขึ้นมาเพื่อสร้างแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีในอังกฤษและยุโรป ท่ามกลางทิศทางของตลาดที่บรรดาบริษัทเอกชนหลายแห่งเปิดใจยอมรับให้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นทางเลือกในการระดมทุน ทำกำไร และเก็บออม

ทั้งนี้ธนาคาร DBS ประเมินว่า แผนกธุรกิจใหม่ อย่าง DBS Digital Exchange บวกกับ แพลตฟอร์ม Carbon Exchange จะทำรายได้ให้กับธนาคารถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2022

อ้างอิง: