กลายเป็นประเด็นร้อนไม่หยุดสำหรับเรื่องราวของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังจากที่ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนปัจจุบันออกมาแถลงต่อกรณีคดีประวัติศาสตร์ที่ศาลตัดสินให้สมาคมฟุตบอลพ่ายแพ้ในคดีสิทธิประโยชน์ และต้องชดใช้ต่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท เป็นจำนวนสูงถึง 360 ล้านบาท
ไม่ต่างอะไรจากการเปิดกล่องแพนโดรา (Pandora Box) ที่เหล่าเรื่องมืดมิดที่ถูกกลบมิดในช่วงที่ผ่านมาถูกขุดคุ้ยและเปิดเผยออกมาให้โลกภายนอกได้รับรู้
หนึ่งในเรื่องที่ได้รับความสนใจจากแฟนฟุตบอลคือกรณีที่มีการเปิดเผยว่าสมาคมชุดที่แล้วจำหน่ายสิทธิประโยชน์หลายอย่างออกไป ซึ่งเป็นปัญหาภาระผูกพันที่ต้องสะสาง โดยนอกจากเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในต่างประเทศแล้ว ยังมีอีก 2 สิ่งที่คนสนใจกันมาก
หนึ่งคือ Data analytics หรือ Data rights
และอีกหนึ่งคือ Gaming rights หรือ Betting rights
สองสิ่งนี้คืออะไร สำคัญอย่างไร และมันส่งผลกระทบดีหรือร้ายต่อวงการฟุตบอลไทยอย่างไรบ้างเมื่อมีการขายข้อมูลออกไป
แล้วแบบนี้มันแปลว่าข้อมูลของเรารั่วไหลออกไปหรือเปล่า?
ก่อนอื่นสิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจกันคือเรื่องของประเภทข้อมูล (Data) ในเกมฟุตบอลก่อน
ยึดการอธิบายของพรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกนั้นประเภทของข้อมูลในเกมฟุตบอลนั้นสามารถแบ่งง่ายๆ ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ
1) สถิติข้อมูลของผู้เล่น (Player statistics)
2) สถิติข้อมูลของสโมสร (Club statistics)
ในพรีเมียร์ลีกยุคอดีตตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในฤดูกาลปฐมฤกษ์ 1992/93 มีการเก็บชุดข้อมูลทั่วไป เช่น จำนวนนัดที่ลงสนาม (ชนะ, เสมอ, แพ้), การเล่นเกมรุก (ประตูที่ทำได้, จำนวนประตูเฉลี่ยต่อนัด), การเล่นเป็นทีม (การผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู หรือแอสซิสต์), เกมรับ (การทำเข้าประตูตัวเอง), ความประพฤติ (ใบเหลือง, ใบแดง)
เพียงแต่ภายหลังจากฤดูกาล 2006/07 เป็นต้นมา ได้มีบริษัทเก็บรวบรวมสถิติข้อมูล Opta (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Stats Perform) ที่ให้บริการข้อมูลสถิติในเชิงลึกมากขึ้น เช่น การยิงประตู (ยิงเข้ากรอบ, ความแม่นยำในการยิง), การสร้างโอกาส, การผ่านบอลสำคัญ (Key passes) ไปจนถึงการวิเคราะห์ค่าคาดการณ์การได้ประตูที่เรียกว่า Expected goals หรือ “xG” ที่เริ่มเป็นที่คุ้นเคยของแฟนฟุตบอลทั่วโลก
เพราะข้อมูลมากมายเหล่านี้มีคุณค่ามากมายเป็นอนันต์ ไม่ใช่เป็นแค่ตัวเลขเฉยๆ แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทมากมายที่รวบรวมสถิติข้อมูลเหล่านี้จากลีกการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลก เพื่อ “วัตถุประสงค์” ในการใช้งานที่แตกต่างกัน
- ใช้เพื่อการพัฒนาการเล่นของนักฟุตบอลและทีม
- ใช้เพื่อเป็นข้อมูลเสริมความรู้ ความบันเทิง
- ใช้เพื่อประกอบกิจกรรมอื่น เช่น เกมหรือการเดิมพัน
โดยบริษัทเหล่านี้พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อ “ซื้อข้อมูล” เหล่านี้ไป เพื่อนำไปใช้ในกิจการตามวัตถุประสงค์ที่มีการตกลงกันอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแผกแปลกอะไร เพราะการขายข้อมูลนั้นไม่ได้มีเฉพาะแค่ในเกมฟุตบอล แต่เป็นเรื่องปกติในวงการกีฬาที่ข้อมูลสามารถนำมาเล่นแร่แปรธาตุได้มากมายไม่รู้จบ ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data analyst) ที่จะเปรียบเป็นเหมือนนักเล่นแร่แปรธาตุข้อมูลว่าจะหยิบจับนำมาใช้แบบไหน
ในฟุตบอลอังกฤษ พรีเมียร์ลีกและฟุตบอลลีก (EFL) สามารถทำรายได้จากการขายข้อมูลอย่างเดียวถึงปีละ 35 ล้านปอนด์ หรือกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
เอาละแล้วทีนี้มาถึงประเด็นสำคัญถึงสิ่งที่มีการเอ่ยถึงจากมาดามแป้งเกี่ยวกับ Data rights และ Gaming rights กัน
Data rights คืออะไร?
หรือในอีกชื่อคือ Media rights เป็นประเภทของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเพื่อใช้สำหรับงานด้านสื่อ (ตามชื่อเลย) ซึ่งเอาให้เข้าใจง่ายๆ ก็หมายถึงการใช้บนสื่อโทรทัศน์ ประกอบการถ่ายทอดสดบนหน้าจอการถ่ายทอดสด (ซึ่งปัจจุบันไม่ได้สงวนไว้แค่โทรทัศน์ แต่รวมถึงสื่อออนไลน์อย่าง YouTube, Facebook ฯลฯ) ไปจนถึงการรายงานสด (Live match statistics)
โดยข้อมูลที่ได้นั้นมีตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน เช่น เปอร์เซ็นต์การครองบอล, ลูกเตะมุม, ลูกทุ่ม, ใบเหลือง, ใบแดง ไปจนถึงข้อมูลที่ลึกขึ้นไปอีกเช่น เหตุการณ์ต่อเนื่องในเกม (Sequence of games), ระยะทางการวิ่ง (Distances)
ระดับความลึกของข้อมูลที่จะใช้นั้นขึ้นอยู่กับการทำความตกลงกันว่าจะเลือกซื้อแพ็กเกจในการเก็บข้อมูลจากบริษัทต่างๆ ในระดับไหน เช่น ในระดับเบื้องต้น หรือในระดับสูง ที่จะนำไปสู่วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น การส่งนักสถิติเข้าไปเก็บข้อมูลตามหลักการและขั้นตอน จนถึงการเก็บข้อมูลผ่านการชมการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นเรื่องสากลที่ทำกันทั่วไปทุกบริษัท
ข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะสามารถใช้บนหน้าจอถ่ายทอดสดได้แล้วยังสามารถนำมาใช้บนเว็บไซต์ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้มีประโยชน์แค่สำหรับนักฟุตบอลหรือทีม แต่รวมถึงแฟนฟุตบอลที่สามารถเข้ามาศึกษาดูสถิติการเล่นต่างๆ ของนักฟุตบอลที่ชื่นชอบได้ด้วย
แล้ว Gaming rights คืออะไร?
หรืออีกชื่อที่พูดกันคือ Betting rights ในความเป็นจริงแล้วก็เป็นข้อมูลประเภทเดียวกันเลยกับ Media rights
ความแตกต่างคือ “วัตถุประสงค์” ในการใช้งาน เพราะสิทธิ์ของข้อมูลในประเภทนี้จะนำไปใช้กับกิจกรรมความบันเทิงเป็นหลัก เช่น การนำไปใช้ในการเล่นเกม โดยเฉพาะเกมที่ต้องใช้ข้อมูลเป็นหัวใจอย่างเช่นเกม Fantasy Football
เหมือนการถ่ายทอดสดเกมฟุตบอลแบบเดียวกัน แต่มีการขายหลายแพลตฟอร์ม เช่น โทรทัศน์ปกติ (Linear TV), ออนไลน์ (Over-the-top หรือ OTT) เป็นต้น
ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในต่างประเทศต้องการเพื่อไปใช้ในการเดิมพันพนันขันต่อด้วย เพียงแต่การขายข้อมูลชนิดนี้ออกไปไม่ได้หมายความว่าจะนำไปใช้เพื่อการพนันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ต่อให้บริษัทที่รับซื้อจะเป็นบริษัทรับพนันก็ตาม
เปรียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นอีกนิด ข้อมูลคือวัตถุดิบ จะนำไปปรุงอะไรก็อยู่ที่พ่อครัวแม่ครัว
การขายข้อมูลเป็นการขายความลับ?
ด้วยความอ่อนไหวของประเด็นในเรื่องข้อมูล โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเราๆ ทุกคนไม่เคยเป็นข้อมูลส่วนบุคคลเสมอไป และมีบรรดาสแกมเมอร์ที่พร้อมจู่โจมด้วยกลวิธีที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าแฟนฟุตบอลบางคนอาจจะตกใจและคิดไปใหญ่
การที่ระบุว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ขายข้อมูลออกไปและยังไม่สามารถซื้อกลับมาได้นั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นการขายข้อมูลความลับ
เหตุผลง่ายๆ เพราะข้อมูลประเภทที่ขายออกไปไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับ เป็นข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
และในโลกของเกมฟุตบอลปัจจุบันจริงๆ ก็แทบไม่มีความลับแล้วเพราะข้อมูลเกือบทุกอย่างสามารถค้นหาได้บนอินเทอร์เน็ต หรือสามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าระบบของบริษัทที่ทำธุรกิจในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นวิธีที่ทำกันมานานแล้ว
อยากรู้ว่านักฟุตบอล A คนนี้เล่นเป็นอย่างไร เก่งตามคำร่ำลือไหมก็แค่กดเข้าไปดูประวัติ นอกจากจะมีข้อมูลพื้นฐานส่วนตัวแล้ว ยังมีข้อมูลสถิติการเล่นอย่างละเอียด เล่นตำแหน่งไหน สไตล์การเล่นแบบไหน มีจุดเด่นด้านไหน
มีกระทั่งคลิปวิดีโอการเล่นที่บันทึกไว้!
นี่คือวิธีที่เอเยนต์ฟุตบอล และฝ่ายจัดหาคน (Recruitment) ของสโมสรฟุตบอลในระดับสากลทำเป็นเรื่องปกติ
เรื่อง Media rights และ Gaming rights จึงไม่น่าจะเป็นประเด็นอ่อนไหวขนาดนั้น ไม่ได้กระทบหรือบ่อนทำลายวงการฟุตบอลไทย ในทางตรงกันข้ามการมีข้อมูลเหล่านี้ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นการดีต่อการพัฒนาเกมฟุตบอลในอีกด้านด้วย
สังเกตจากปัจจุบันที่แฟนฟุตบอลชาวไทยมีคนที่สนใจข้อมูลสถิติการแข่งขันกันมากขึ้น มีการนำข้อมูลมาใช้ประกอบการวิเคราะห์อย่างมีหลักการ เกิดการศึกษาค้นคว้าที่จริงจัง และอาจจะมีความหวังที่จะได้เห็นนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data analyst) เพิ่มขึ้นในเกมฟุตบอลไทย
และอาจจะไปจนถึงการที่สโมสรต่างๆ จะให้ความสำคัญกับการลงทุนในส่วนนี้มากขึ้นในอนาคต เพราะเป็นที่ประจักษ์มานานแล้วว่าการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) มีความสำคัญสำหรับเกมฟุตบอลสมัยใหม่ ในยุคที่ “ศาสตร์” สำคัญไม่น้อยไปกว่า “ศิลป์”
จำนวนข้อมูลยิ่งมากยิ่งดีถือเป็นวัตถุดิบ (Resource) ที่สำคัญ หลายประเทศมีการลงทุนกับเรื่องพวกนี้มาก โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วทางเกมลูกหนัง แต่สิ่งสำคัญกว่าแค่การมีข้อมูลคือการมีคนที่รู้และเข้าใจข้อมูลเหล่านั้น เก่งพอที่จะเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้จริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ในประเทศไทยมีนักวิเคราะห์ที่เก่งในระดับนั้นอยู่ไม่กี่คน
การจุดกระแสเรื่อง Data analytics ในเกมฟุตบอลขึ้นมาได้ มองในแง่ดีก็อาจเป็นคุณูปการของกระแสข่าวเรื่องนี้ได้เหมือนกัน
โดยสรุปแล้วจากสิ่งที่นายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบันได้กล่าวถึงว่ามีการขายข้อมูลออกไปให้กับบริษัทต่างชาตินั้น หากพิจารณาตามนี้แล้วจึงไม่ใช่เรื่องที่ถึงกับต้องตกอกตกใจอะไรมากมาย (อนุญาตให้เอามือทาบอกได้เบาๆ)
เป็นเรื่องปกติที่เขาทำกัน ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ต่างๆ การต่อรองเพื่อขอซื้อสิทธิ์บางอย่างกลับมา การพยายามหาคำตอบและทางออกเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ เป็นงานของสมาคมฟุตบอลที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ขออนุญาตส่งกำลังใจให้อย่างแรงกล้า เพราะรู้ว่างานนั้นไม่ง่าย มีสิ่งต่างๆ มากมายที่ต้องชำระสะสางให้ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม รวมถึงเรื่องของการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในกรณีคดีปัญหาต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการไป
ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
แม้ในวันที่อาจจะมองไม่เห็นทางออก อย่างน้อยก็มีทางที่เข้ามาอีกทางหนึ่ง
อ้างอิง: