×

ไพ่ใบใหม่ของเวียดนาม? รัฐบาลเปิดทางต่างชาติเป็นเจ้าของ Data Center ได้ 100% ไทยอยู่ตรงไหน?

12.07.2024
  • LOADING...

ปีนี้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นดินแดนเนื้อหอมของบรรดาบิ๊กเทค ทั้ง Apple, Google และ Microsoft แห่มาลงทุนคึกคัก โดยเฉพาะมีการคาดการณ์ว่า Data Center ในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย จะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

เรียกได้ว่า Data Center และ Cloud Service ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโลกยุคใหม่ที่ดึงดูดการตัดสินใจอย่างมาก จึงเป็นโอกาสช่วงชิงสำคัญของรัฐบาลแต่ละประเทศที่จะปลดล็อก ออกมาตรการ เปิดทางกฎหมายใหม่ๆ เพื่อกระตุ้น ดังเช่นประเทศล่าสุดอย่างเวียดนาม

 

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า เวียดนามอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศได้แล้ว 100% หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกฎระเบียบการจัดเก็บข้อมูลที่เข้มงวด ไม่ตอบโจทย์ความต้องการภายในตลาดของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่  

 

กฎหมายว่าด้วยโทรคมนาคม (The Law on Telecommunications) ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ในเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุชัดว่าจะไม่มีการจำกัดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติสำหรับผู้ให้บริการข้อมูลและคลาวด์อีกต่อไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่ออุตสาหกรรมในเวียดนาม

 

รัฐบาลเวียดนามจึงกำหนดเพดานถือหุ้นของต่างชาติไว้ที่ 49% และกฎหมายฉบับนี้ถือเป็น ‘ข้อยกเว้นพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน’ ที่เปิดทางและปลดล็อกข้อจำกัดของผู้ให้บริการข้อมูลและคลาวด์อีกด้วย 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ Facebook, Google รวมถึงรัฐบาลญี่ปุ่นและแคนาดา แสดงความกังวลต่อกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของเวียดนาม ที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ เก็บข้อมูลไว้ในประเทศ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเวียดนามจะหาทางออกที่ได้ประโยชน์ร่วมกันได้ ด้วยการผ่อนคลายข้อจำกัด เปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ได้เต็มที่ 

 

Data Center กำลังเป็น ‘ไพ่ใบใหม่’ ของเวียดนาม?

 

Leif Schneider ที่ปรึกษากฎหมายจากบริษัท Luther มองว่า กฎหมายโทรคมนาคมฉบับใหม่นี้นับเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ ที่จะดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เพื่อปูทางสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ต้องการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

 

เพราะอีกสัญญาณที่เห็นได้ชัดคือ ความสนใจจากบิ๊กเทคอย่าง Amazon Web Services และ Keppel บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ก็กำลังมองหาโอกาสลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

 

และก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า Alibaba เตรียมสร้าง Data Center ในเวียดนามด้วยมูลค่าทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก 

 

และเมื่อดูข้อมูล เศรษฐกิจ Data Center ของเวียดนาม น่าสนใจว่าปีนี้จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยและการตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 

 

พลังงานที่ไม่เสถียร จุดอ่อน ‘ท้าทายเวียดนาม’

 

อย่างไรก็ตาม Meir Tlebalde  ซีอีโอของ Sunwah Kirin Consulting Vietnam กล่าวว่า ด้วยเงินลงทุนที่สูงอาจทำให้นักลงทุนจะต้องพิจารณาระยะเวลาคืนทุนไม่ต่ำกว่า 5-8 ปี ปัจจัยสำคัญคือต้องผ่านกระบวนการอนุมัติ การวางแผนการทำงาน รวมไปถึงโซลูชันพลังงานสีเขียวที่มีอย่างจำกัด

 

ภาพ: Xiu huo / Getty images 

 

ท่ามกลางความท้าทาย Meir ก็ยังมองเห็นอนาคตที่มีแนวโน้มเติบโตของธุรกิจศูนย์ข้อมูลในเวียดนาม โดยรัฐบาลกำลังผลักดันข้อตกลงซื้อไฟฟ้าโดยตรง (DPPAs) ซึ่งนโยบายนี้จะอนุญาตให้บริษัทต่างๆ สามารถซื้อพลังงานทดแทนจากผู้ผลิต โดยไม่ต้องอาศัยระบบไฟฟ้าของรัฐ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องแหล่งพลังงานและลดต้นทุน และกฎหมายใหม่นี้ช่วยลดเงื่อนไขได้ เพราะต้องยอมรับว่าเวียดนามยังคงเผชิญเรื่องของไฟฟ้าที่ไม่เสถียรพอ  

 

สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Data Center กำลังขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจสูงถึง 19% โดยมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญทั้งในตลาดหลักและตลาดรองในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ถือเป็นตลาดหลัก ในขณะที่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ถือเป็นตลาดรอง แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนว่า ‘ตลาดหลักกระจายไปยังตลาดรองมากขึ้น’

 

Data Center ในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย จะพุ่งอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า!

 

แม้เวียดนามซึ่งเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใสยังตามหลังประเทศอื่นๆ ในแง่ของขนาด ปัจจุบันตลาด Data Center ของเวียดนามเป็นเพียงส่วนเล็กๆ หากเทียบกับขนาดของสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

 

เมื่อพิจารณาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2020-2022) ตลาด Data Center ในอินโดนีเซียและมาเลเซียเติบโตประมาณ 6 เท่า ในขณะที่เวียดนามเติบโตเพียง 1.5 เท่า แม้จะมีโอกาสที่เป็นไปได้และโมเมนตัมทางการตลาด แต่เวียดนามก็ยังคงเติบโตค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

 

ทว่า Viettel IDC มองจุดแข็งของเวียดนามว่าคือการมีเแหล่งแรงงานที่ต้นทุนต่ำ มีพนักงานไอทีจำนวนมาก ต้นทุนการก่อสร้างที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ กรอบการทำงานด้านกฎระเบียบที่สนับสนุน และนโยบายรัฐบาลสำหรับโครงการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อาจเป็นแต้มต่อสำคัญ 

 

ไทยอยู่ตรงไหน

 

ปัจจุบันไทยมีการลงทุนต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากโครงการ Data Center และ Cloud Service ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI รวม 37 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 98,539 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง 

 

 

ที่ผ่านมามีบริษัทชั้นนำระดับโลกเข้ามาลงทุนจัดตั้ง Data Center ในประเทศไทยแล้วหลายราย เช่น Amazon Web Service (AWS) 

 

“การลงทุนใน Data Center จะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ช่วยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ที่ปัจจุบัน Data Center ในไทยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งความท้าทายคือ อุตสาหกรรมนี้ต้องอาศัยการพัฒนาแรงงานทักษะสูง”

 

อย่างไรก็ตาม BOI เปิดทางนักลงทุนให้ลงทุนต่อเนื่องโดยให้สิทธิประโยชน์ที่จูงใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น 

  • ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 
  • อนุญาตให้ถือครองที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม 
  • อำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน 
  • ลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับบุคลากรทักษะสูง 
  • บริการข้อมูลและช่วยจัดหาสถานที่ตั้งโครงการ การช่วยประสานงานในการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ 
  • มาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบจากกติกาภาษีใหม่ (Globa Minimum Tax)

 

จากข้างต้นชัดเจนแล้วว่า อุตสาหกรรม Data Center และ Cloud Service ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโลกยุคใหม่ที่ดึงดูดการตัดสินใจให้บิ๊กเทคเข้ามาลงทุน คงต้องจับตาต่อไปว่านับจากนี้ไทยและเพื่อนบ้าน ใครจะเป็นตัวจริงบนสมรภูมิ Data Center แห่งนี้ 

 

อ้างอิง:  

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising