×

Daniel Day-Lewis ดาราชายที่ชนะออสการ์มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่ขอยุติเส้นทางนักแสดงเพียงเท่านี้

21.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • แดเนียลเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เลือกบทบาทมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ก็ว่าได้ ตั้งแต่เริ่มอาชีพนักแสดงในปี 1970 จนถึงปัจจุบัน เขาเล่นหนังมาทั้งหมด 21 เรื่องเท่านั้น
  • สำหรับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แดเนียลก็สร้างประวัติศาสตร์ไว้โดยชนะไปถึง 3 ครั้งจากการเข้าชิงทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกัน
  • เมื่อปีที่แล้ว แดเนียลได้ออกมาประกาศว่าจะเลิกแสดงหนังในวัย 60 ปี โดยหนังเรื่องสุดท้ายที่เขาจะแสดงนั้นคือเรื่อง Phantom Thread

 

Photo: Matt Brown / ©A.M.P.A.S.

 

แดเนียล ไมเคิล เบลก เดย์-ลูอิส เป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่ถือสองสัญชาติคืออังกฤษและไอริช เขาเกิดวันที่ 29 เมษายน 1957 และเติบโตที่ย่านเคนซิงตัน กรุงลอนดอน คุณพ่อของเขา เซซิล เดย์-ลูอิส เป็นนักเขียนบทกวี และคุณแม่ จิล บาลคอน เป็นนักแสดง เขามีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ ทามาซิน เดย์-ลูอิส

 

แดเนียล เดย์-ลูอิส เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัว แต่ที่รู้กันดีคือเรื่องที่เขาเคยคบกับนักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส อิซาเบล อาจานี อยู่ 6 ปี และลูกชายของทั้งคู่เกิดเมื่อปี 1995 แต่อีกไม่กี่เดือนก็เลิกรากัน และเขาได้ไปพบกับ รีเบกกา มิลเลอร์ ลูกสาวของนักเขียนบทที่เขารับแสดงในเรื่อง The Crucible (1996) ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1996 และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน

 

แดเนียลเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เลือกบทบาทมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ก็ว่าได้ ตั้งแต่เขาเริ่มอาชีพนักแสดงมาในปี 1970 จนถึงปัจจุบัน เขาเล่นหนังมาทั้งหมด 21 เรื่องเท่านั้น และยังเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับบทบาทตัวละครที่เขารับเล่นอย่างยิ่ง หรือที่เรียกว่าศาสตร์ Method Acting คือมีการเตรียมตัวและใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจกับบทนั้นๆ เพื่อให้เข้าถึงตัวละครได้เต็มที่ เขามักจะอยู่ในบทบาทเสมอ เริ่มตั้งแต่การถ่ายทำหนังเรื่องนั้นๆ จนบางครั้งการเข้าถึงบทบาทตัวละครก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเขา

 

แดเนียลกับภรรยา รีเบกกา มิลเลอร์

ภาพยนตร์ There Will Be Blood

แดเนียลกับเชฟโวล์ฟกัง พัค

Photo:Richard Harbaugh / ©A.M.P.A.S.

 

อย่างเช่นเรื่อง My Left Foot (1989) ที่เขาต้องเล่นเป็นชายพิการทางสมอง เขาไปที่คลินิกดูแลผู้พิการอยู่บ่อยครั้ง และได้เป็นเพื่อนกับผู้พิการหลายคน ขณะที่เขาไม่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ เขานั่งวีลแชร์ไปไหนมาไหนด้วยตัวเองในกองถ่าย ทำให้ทีมงานต้องยกเขาข้ามกล้อง สายไฟ อีกทั้งยังต้องป้อนอาหารเขาอีกด้วย

 

ฝีมือการแสดงของแดเนียลถือว่าจัดอยู่ในระดับเทพ เพราะนักวิจารณ์และเหล่าผู้ชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ไม่ว่าจะบทบาทไหน แดเนียลก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มอารมณ์ ตีบทแตกในทุกๆ ตัวละคร เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นในหมู่นักแสดงด้วยกัน

 

พูดถึงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แดเนียลก็สร้างประวัติศาสตร์ไว้โดยชนะไปถึง 3 ครั้งจากการเข้าชิงทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกัน รางวัลออสการ์ตัวแรกของเขาได้มาจากเรื่อง My Left Foot (1989) ในบท คริสตี บราวน์ ชายพิการทางสมองที่ไม่สามารถควบคุมเท้าซ้ายได้ 18 ปีต่อมาเขาก็ได้รางวัลออสการ์ตัวที่สองไปครองจากเรื่อง There Will Be Blood (2007) ในบท แดเนียล เพลนวิว นักขุดเจาะน้ำมัน ส่วนตัวล่าสุดก็จากเรื่อง Lincoln (2012) ในบท ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น

 

Photo: Todd Wawrychuk / ©A.M.P.A.S.

Photo: Matt Petit / ©A.M.P.A.S.

 

โดยงานออสการ์ในปีนี้ เขามีชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกครั้งจากเรื่อง Phantom Thread ในบท เรย์โนล์ดส์ วู้ดค็อก ช่างตัดเสื้อในสังคมชนชั้นสูงที่ลอนดอน ซึ่งถ้าเขาชนะรางวัลปีนี้ เขาจะกลายเป็นบุคคลแรกที่ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม 4 ครั้ง มากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

นอกจากออสการ์ เขายังเคยชนะรางวัล Bafta ไป 4 ครั้ง รางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe) ชนะไป 2 ครั้ง รางวัล Screen Actors Guild Awards ชนะไป 3 ครั้ง และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

 

เมื่อปี 2017 แดเนียลได้ออกมาประกาศว่าจะเลิกแสดงหนังในวัย 60 ปี โดยหนังเรื่องสุดท้ายที่เขาจะแสดงคือ Phantom Thread ทั้งที่ในวงการภาพยนตร์นั้นยังถือว่าเขามีหนทางอีกยาวไกล และยังรับบทได้อีกหลากหลายรูปแบบ แต่แดเนียลได้ออกมากล่าวว่า “ขอบคุณทุกๆ คน ทั้งเพื่อนร่วมงานและคนดูในตลอดหลายปีมานี้ การลาออกจากการเป็นนักแสดงเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของผม” แต่นี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แดเนียลเคยประกาศออกจากวงการ เพราะในปี 1997 หลังถ่ายทำหนังเรื่อง The Boxer เสร็จ เขาเคยตัดสินใจหยุดรับงานแสดงไปถึง 5 ปีเพื่อไปเป็นช่างไม้และฝึกการทำรองเท้ากับสเตฟาโน เบเมอร์ นักทำรองเท้าชื่อดังชาวอิตาเลียน ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่าในอนาคต แดเนียลจะเปลี่ยนใจอีกไหม และถ้าเขาเปลี่ยนใจกลับมารับงานแสดงอีกครั้งก็นับเป็นความยินดีของเรา

 

COVER PHOTO: Richard Harbaugh / ©A.M.P.A.S.

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X