แดง พระโขนง คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ และ แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ หรือ แจ็ค แฟนฉัน ที่ได้รับโอกาสใหม่ๆ ในสายงานบันเทิงของตัวเองไปอีกก้าว โดยสองเพื่อนสนิทที่หยิบนำตำนานสุดสยองแห่งทุ่งพระโขนงมาบอกเล่าในมุมมองใหม่
หนังพยายามบอกเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ผีนางนากแห่งทุ่งพระโขนงถูกสมเด็จโตปราบและนำปั้นเหน่งของนางนากไปบำเพ็ญเพียรกับพระมาก จนเวลาล่วงเลยมานานกว่า 10 ปี อยู่ๆ แดง (เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน) ลูกชายของนางนากที่สมเด็จโตไม่ได้นำร่างไปบำเพ็ญเพียรด้วย ได้ปรากฏตัวขึ้นและอยู่ร่วมกับชาวบ้านอย่างเป็นมิตรจนกลายเป็นเรื่องปกติ ยกเว้นเหล่าเด็กๆ ในหมู่บ้านที่ไม่รู้ความจริงว่าแดงเป็นผี
แต่แล้ววันหนึ่ง ศรี (โบ๊ท-ภูวรักษ์ คำสิงห์) หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของแดง เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของแดง เรื่องราวแสนวุ่นวายที่จะมาพิสูจน์มิตรภาพระหว่างแดงที่เป็นผีและกลุ่มเพื่อนมนุษย์อย่าง ศรี, เฮง (ไบค์วีค-สุรชัย บ่อสุวรรณ), สำลี (เอ็มเจ ซูเปอร์เท็น) และ มะลิ (มากิ-มาชิดา สุทธิกุลพานิช) จึงได้เริ่มต้นขึ้น
จุดเด่นข้อหนึ่งของ แดง พระโขนง คือพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างแข็งแรงและชวนติดตามมากๆ โดยเฉพาะการเลือกให้แดงเป็นผีที่ผู้คนในหมู่บ้านต่างให้ความเอ็นดูมากกว่าจะสร้างความหวาดกลัว รวมถึงการหยิบนำเรื่องราวมิตรภาพระหว่างแดงและกลุ่มเพื่อน ที่มีปมปัญหาหลักคือการที่เพื่อนๆ ไม่รู้ว่าแดงเป็นผี ในช่วงองก์แรกของเรื่องจึงสามารถชักชวนให้เราอยากติดตามเรื่องราวของภาพยนตร์ต่อได้เป็นอย่างดี
แต่ถึงอย่างนั้นตัวหนังค่อนข้างจะมีปัญหาในแง่ของการดำเนินเรื่องอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการพาผู้ชมไปทำความรู้จักกับแก๊งเพื่อนของแดงทั้ง 4 คนเพียงผิวเผิน ขาดการขยายความให้เราเห็นถึงภูมิหลังของตัวละครแต่ละตัว หรือความสัมพันธ์ของแก๊งเพื่อนและแดงอย่างมากเพียงพอ
ซึ่งจุดด้อยข้อนี้เองส่งผลให้พล็อตเรื่องหลักที่ว่าด้วยเรื่องราวมิตรภาพของแดงและแก๊งเพื่อนค่อยๆ ลดทอนความน่าสนใจลงไปมากพอสมควร อีกทั้งยังส่งผลให้บทสรุปของเรื่องราวไม่สามารถสร้างความประทับใจให้เราได้อย่างที่ควรจะเป็น
อีกหนึ่งจุดด้อยที่เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัว คือการที่ภาพยนตร์พยายามแทรกมุกตลกเข้ามามากเกินไป จนทำให้เนื้อหาของภาพยนตร์ยืดเยื้อมากเกินความจำเป็น ซึ่งหากผู้กำกับลองลดทอนมุกตลกภายในเรื่องและเอาเวลามาขยายเนื้อหาหลักแทน น่าจะช่วยให้เรื่องราวของแดงและแก๊งเพื่อนมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากที่ภาพยนตร์จะใส่มุกตลกเข้ามามากเกินไปแล้ว การที่ภาพยนตร์เลือกเล่นมุกตลกในเชิงล้อเลียนรูปร่างหน้าตาของตัวละครภายในเรื่อง ถือเป็นจุดด้อยสำคัญของภาพยนตร์ที่เราคิดว่าไม่ควรหยิบมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมุกตลกเหล่านั้นถูกนำเสนอผ่านแก๊งเพื่อนของแดงที่เป็นเด็ก มันจึงส่งผลให้มุกตลกหลายๆ มุกที่ควรจะมาสร้างเสียงหัวเราะให้กับเรา กลับกลายเป็นจุดด้อยของภาพยนตร์ไปเสียอย่างนั้น
ในภาพรวมแล้ว แดง พระโขนง เป็นภาพยนตร์คอเมดี้สยองขวัญที่มีพล็อตเรื่องค่อนข้างน่าสนใจและชวนติดตาม โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องราวของตำนานแดงพระโขนงที่สดใหม่ แต่ด้วยวิธีการนำเสนอที่ไม่สามารถทำให้เรารู้สึกอินไปกับเรื่องราวของตัวละคร รวมถึงมุกตลกขบขันที่ใส่เข้ามามากเกินไปจนกินเวลาในการเล่าเรื่องที่ควรจะเล่า จึงส่งผลให้บทสรุปของเรื่องไม่สามารถสร้างความประทับใจให้เราได้อย่างที่ควรจะเป็น
แดง พระโขนง มีกำหนดเข้าฉาย 31 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
