ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการดนตรีเมื่อ Daft Punk คู่หูโรบอตที่ประกอบไปด้วย กีย์-มานูแอล เดอ โฮเมม คริสโต และ โธมัส แบงกอลเตอร์ ศิลปินเจ้าพ่อเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ออกมาประกาศแยกวงหลังร่วมงานกันมานานกว่า 28 ปี โดยล่าสุดมีรายงานออกมาว่ายอดขายเพลงของพวกเขาทะยานสูงขึ้นมาก ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นว่าผลงานของพวกเขานั้นมีอิทธิพลต่อสังคมและโลกดนตรีขนาดไหน
โดยทาง Alpha Data ผู้ให้บริการด้านวิเคราะห์ข้อมูลและเก็บสถิติต่างๆ ซึ่งสื่อดนตรีอย่าง Rolling Stone ใช้เป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับการจัดชาร์ตเพลงได้เปิดเผยว่า หลัง Daft Punk ประกาศแยกวง ยอดขายเพลงของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้นถึง 1,335% อีกทั้งยอดขายอัลบั้มทุกชุดรวมกันในระบบดิจิทัล ทั้งผลงานเดบิวต์อย่าง Homework (1997), Discovery (2001), Human After All (2005), และ Random Access Memories (2013) ก็พุ่งทะยานถึง 2,650%
แต่ผลงานที่ขายดิบขายดีมากที่สุดเห็นจะเป็นอัลบั้มชุด Discovery ที่มีเพลงดังอย่าง One More Time, Digital Love, Something About Us ฯลฯ ซึ่งยอดขายในระบบดิจิตัลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 8,000% และมีผู้คนเข้าไปกดสตรีมมากกว่า 1.5 ล้านครั้ง สำหรับอัลบั้มชุดอื่นๆ อย่าง Homework ก็มียอดสตรีมเพิ่มขึ้นถึง 714%, อัลบั้ม Random Access Memories เพิ่มขึ้น 600%, อัลบั้มบันทึกการแสดงสด Alive 2007 เพิ่มขึ้น 294% และอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ TRON: Legacy (2010) เพิ่มขึ้น 360%
ส่วนทางด้านเพลงที่แฟนๆ ทั่วโลกกดเข้าไปฟังผ่านระบบสตรีมมิงมากที่สุดหลัง Daft Punk ประกาศแยกวง ก็หนีไม่พ้นเพลงสุดฮิตอย่าง Get Lucky ที่พวกเขาร่วมงานกับ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ ที่ยอดสตรีมพุ่งขึ้น 180%, เพลง One More Time ที่ยอดสตรีมพุ่งขึ้น 368%, เพลง Harder Better Faster Stronger ที่ยอดสตรีมพุ่งขึ้น 418%, เพลง Around the World ที่ยอดสตรีมพุ่งขึ้น 381% และเพลง Instant Crush ที่สองโรบอตร่วมงานกับ จูเลียน คาซาบลังกาส์ ฟรอนต์แมนแห่งวง The Strokes ซึ่งยอดสตรีมพุ่งขึ้น 392% นอกจากนี้ทาง Spotify สตรีมมิงเจ้าดังยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีผู้คนกว่า 459,334 คนที่กดเข้าไปฟังเพลงของ Daft Punk เป็นครั้งแรก
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: