ไซโคลนมีชอง (Michaung) พัดถล่มชายฝั่งตอนใต้ของอินเดียในช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น อิทธิพลของพายุส่งผลให้ฝนตกหนัก เกิดคลื่นสูงซัดเข้าเมืองต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่ง และถนนจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คน
กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียเปิดเผยผ่านทาง X (Twitter) ว่า ไซโคลนมีชองเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในรัฐอานธรประเทศทางตอนใต้ของอินเดีย ใกล้กับเมืองบาปัตลา (Bapatla) ด้วยความเร็วลมสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่บางส่วนของรัฐจะมีฝนตกหนักมากกว่า 200 มิลลิเมตร (8 นิ้ว) และได้อพยพประชาชนอย่างน้อย 8,000 คนไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
ฝนและลมแรงทำให้สายไฟได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่น ขณะที่รถไฟมากกว่า 140 ขบวน และเที่ยวบิน 40 เที่ยวถูกยกเลิกในรัฐอานธรประเทศ
หน่วยงานบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐอานธรประเทศเปิดเผยว่า เด็กชายวัย 4 ขวบเสียชีวิตในเขตติรุปติ (Tirupati) หลังกำแพงพังถล่ม ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 8 คนในรัฐทมิฬนาฑูที่อยู่ใกล้เคียง จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
ในเมืองเจนไน เมืองหลวงของรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ ชาวเมืองต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงเอว ขณะที่รถยนต์พังเสียหาย และรันเวย์ของสนามบินจมอยู่ใต้น้ำ ส่งผลให้สนามบินเจนไนที่พลุกพล่านจอแจที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดียต้องปิดให้บริการจนถึงเช้าวันอังคาร ก่อนที่โฆษกกระทรวงการบินพลเรือนจะออกมาเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า สนามบินเจนไนได้กลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังฝนหยุดและน้ำลดลงแล้ว
มีรายงานว่า ฝนตกหนักส่งผลให้บริษัท Foxconn และบริษัท Pegatron ของไต้หวัน ต้องหยุดการผลิต iPhone ที่โรงงานใกล้เมืองเจนไนชั่วคราวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 ธันวาคม)
ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2015 รัฐทมิฬนาฑูเคยประสบภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 290 คน และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
ภาพ: R__SATISH_BABU / AFP
อ้างอิง:
