วันนี้ (28 พฤษภาคม) เวลา 09.58 น. เข้าสู่วาระพิจารณาพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 กำหนดการตรา พ.ร.ก. มาตรา 172 สามารถใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ได้ วรรค 1 ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นว่า เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ และเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาอย่างไม่ชักช้าเพื่ออนุมัติ หรือไม่อนุมัติ พ.ร.ก.โดยเร็ว
ในโอกาสนี้ รัฐบาลจึงขอกราบเรียนสภาผู้แทนราษฎร ถึงหลักการและเหตุผล พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 แบบสรุปได้ ดังนี้ เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น แต่พบว่า ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของกลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องเร่งด่วนแก้ไขปรับปรุงกฎหมายปัจจุบันให้ทันสมัยเหมาะสม และครอบคลุมกับสถานการณ์ในยุคดิจิทัล