×

Balenciaga, L’oeuvre au noir นิทรรศการ (เกือบ) 100 ปี แห่งงานตัดเย็บชั้นครูของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก

05.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

10 Mins. Read
  • นิทรรศการ Balenciaga, L’oeuvre au noir แสดงผลงานชิ้นโบว์แดงและขั้นตอนการออกแบบที่ใช้สีดำเป็นหลัก จัดโดยพิพิธภัณฑ์แฟชั่นแห่งปารีส Palais Galliera ณ พิพิธภัณฑ์บูร์แดล
  • สีดำของ Balenciaga จึงมีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และหากเราจะทำการศึกษาผลงานของกูตูริเยร์ที่ขึ้นชื่อในการตัดเย็บที่คม แม่นยำ และโครงชุดล้ำสมัยในยุคนั้น เสื้อผ้าสีดำนี่ล่ะที่จะทำให้เราเห็นรายละเอียดเล็กน้อยได้ดีที่สุด
  • ต่อให้ราคาแพงแค่ไหน แต่การออกแบบกับการตัดเย็บสำคัญที่สุด เพราะของที่อยู่เหนือเทรนด์นั้นไร้กาลเวลา ดั่งชุดที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการนี้

     หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อแบรนด์ Balenciaga จากกระเป๋าที่ได้แรงบันดาลใจจากถุงกระสอบสีรุ้ง และถุงสีฟ้า Ikea ที่กลายเป็นไวรัลแชร์ไปทั่วโลก ในสายตาของคนทั่วไปนี่อาจจะเป็นแบรนด์น้องใหม่แสนเก๋สุดแหวกแนว แต่ที่จริงแล้วห้องเสื้อแห่งนี้กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ในอีกสองปีนี้แล้ว

     Balenciaga ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1919 โดยนักออกแบบชาวสเปน คริสโตบัล บาลองเซียกา (Cristobal Balenciaga) ผู้ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นที่สุดของนักออกแบบอาภรณ์ชั้นสูงจากเหล่านักออกแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) และโคโค่ ชาแนล (Coco Chanel)

     เสื้อผ้าของคริสโตบัลมีความเรียบโก้ ล้ำสมัย แต่ขณะเดียวกันก็มีขั้นตอนตัดเย็บที่ซับซ้อนและประณีต สิ่งที่น่าสนใจคือความหลงใหลในสีดำของคริสโตบัล ตั้งแต่การตัดขึ้นแบบบนหุ่น ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุสีดำในหลายรูปแบบ นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจในการจัดนิทรรศการ Balenciaga, L’oeuvre au noir แสดงผลงานชิ้นโบว์แดงและขั้นตอนการออกแบบที่ใช้สีดำเป็นหลัก จัดโดยพิพิธภัณฑ์แฟชั่นแห่งปารีส Palais Galliera ณ พิพิธภัณฑ์บูร์แดล (Musee Bourdelle)

     THE STANDARD จะพาคุณเดินทางไปชมนิทรรศการแห่งนี้อย่างใกล้ชิด ณ กรุงปารีส มหานครแห่งแฟชั่น มาดูกันว่าผลงานการตัดเย็บขั้นสูง หรือโอต์กูตูร์ จะสวยงามแค่ไหน

 

ทางขึ้นจากสถานีเมโทร Montparnasse – Bienvenüe

วิวจากถนนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์บูร์แดล 

 

     นิทรรศการนี้จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์บูร์แดล หนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งปารีส แต่เดิมเป็นสตูดิโอส่วนตัวของ อองตวน บูร์แดล (Antoine Bourdelle) ประติมากรฝรั่งเศสที่มีอิทธิพลในศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยอองตวนได้เริ่มเปลี่ยนสตูดิโอให้เป็นแหล่งสะสมผลงานของเขาในปี ค.ศ. 1922 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1949 ผลงานของอองตวนผสมไปด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ใช้เรขาคณิต และนวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วย ในขณะที่เสื้อผ้าของคริสโตบัลนั้นเป็นเหมือนงานศิลปะที่สวมใส่ได้ เน้นโครงชุดที่แปลกและล้ำสมัย การตัดเย็บสุดคมกริบ และเล่นน้ำหนักดั่งขึ้นปั้นจากผ้า ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับโชว์ผลงานของคริสโตบัลได้เป็นอย่างดี

 

    นิทรรศการแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ส่วนแรกอยู่ในห้องจัดแสดงผลงานถาวร และอีกส่วนจัดภายในส่วนขยายชั้นใต้ดิน ซึ่งมีเดรส เสื้อโค้ต และหมวก มากกว่า 100 ชิ้น ออกแบบโดยคริสโตบัลในปี ค.ศ. 1930 จนถึง ค.ศ. 1940 โดยสีดำเป็นสีที่มีความผูกพันกับการทำงานของเขาตั้งแต่แรกเริ่ม

    สีดำเป็นสีเอกลักษณ์ของสายเลือดสเปน สีดำอันมืดสนิทชวนให้หลงใหลและน่าค้นหา สำหรับคริสโตบัลเขาไม่ได้เลือกใช้วัสดุเพราะมันมีสีดำ แต่เขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่างจากสีดำ ไม่ว่าจะเป็นการจับเดรป การซ้อนผ้าหลายชั้น การตัดผ้าแนวทแยง การปักเลื่อมและลวดลายสีดำตกแต่ง หรือจะแค่การตัดแจ็กเก็ตที่ต้องทำให้ประณีตที่สุด หากเย็บเหลื่อมเพียงเสี้ยวมิลลิเมตรก็มีโอกาสทำให้โครงชุดเปลี่ยนได้

    สีดำของ Balenciaga จึงมีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และหากเราจะทำการศึกษาผลงานของกูตูริเยร์ที่ขึ้นชื่อในการตัดเย็บที่คม แม่นยำ และโครงชุดล้ำสมัยในยุคนั้น เสื้อผ้าสีดำนี่ล่ะที่จะทำให้เราเห็นรายละเอียดเล็กน้อยได้ดีที่สุด

 

ชุดกระโปรงทรงเบบี้ดอลจากปี ค.ศ.1966 ทรงชุดที่กลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Balenciaga

 

    เมื่อเข้าไปในห้องจัดแสดงในส่วน Abstract Volume การนำเสนอชุดต่างๆ ในห้องนี้วางอยู่ในกล่องสีดำ มีผ้าม่านสีดำปิดไว้ เพื่อให้ผู้ชมได้ร่วมค้นหาว่าอะไรซ่อนอยู่ภายใต้ความมืด คริสโตบัลชอบเล่นกับน้ำหนักโดยใช้เทคนิคการตัดแบบ การเย็บ และผ้าชนิดต่างๆ มาขึ้นรูป ซึ่งอาจจะดูซ้อนผ้าหลายชั้นไว้ด้านใน แต่จริงๆ แล้วกลับเบาสบาย ทั้งยังสวมใส่ได้จริง

    ชุดกระโปรงทรงเบบี้ดอลในลักษณะนี้ เป็นผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับคริสโตบัล เพราะเป็นรูปทรงที่ทันสมัย ไม่รัดเอว แต่ก็มีทรวดทรงโค้งเว้า อันเป็นหนึ่งในลายเซ็นของห้องเสื้อแห่งนี้ โดยเฉพาะคอลเล็กชันฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 2017 ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนล่าสุด เด็มนา กวาซาเลีย (Demna Gvasalia) ได้หยิบเอาโครงชุดเบบี้ดอลหลากแบบมาเติมสีสันฉูดฉาดที่แฝงกลิ่นอายแฟชั่นฝั่งยุโรปตะวันออกเข้าไป

 

ชุดสูทกระโปรงจากปี ค.ศ.1952 จัดแสดงในสตูดิโอเก่าของอองตวน บูร์แดล

 

    ภายในห้องจัดแสดงในส่วน Abstract Volume มีเพียงเสื้อผ้าหลักชุดเดียว ซึ่งเป็นชุดสูทกระโปรงเรียบโก้ แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดสำคัญ อย่างการตัดแบบชุดให้ช่วงเอวคอดที่โชว์ฝีมือของคริสโตบัลได้อย่างยอดเยี่ยม

    นอกจากนี้ ภายในห้องยังมีหมวกและเครื่องประดับศีรษะ อันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความอู้ฟู้จากการตกแต่งเลื่อม หมุด หรือขนนก อันเป็นส่วนเติมเต็มให้กับชุดเรียบๆ ที่แสดงอยู่ โครงชุดแบบนี้ทำให้นึกถึงคอลเล็กชันแรกที่อเล็กซานเดอร์ แวง (Alexander Wang) นักออกแบบชาวอเมริกันเชื้อสายจีนสร้างสรรค์ออกมาในปี ค.ศ. 2013 ซึ่งเสื้อผ้าในฤดูกาลนั้นเน้นแค่สีดำและขาว เน้นโครงรูปโค้งเว้า น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ของจริง

 

  โค้ตผ้าขนสัตว์สีดำลายทางสีชมพูสดจากปี ค.ศ. 1967

 

    สีชมพูเป็นอีกหนึ่งสีโปรดของคริสโตบัล เขาตัดความมืดสนิทของสีดำด้วยสีชมพูหลายเฉดเพื่อสร้างความสมดุลให้กับชุด โดยจะดูจากวัสดุที่ใช้และโครงชุด หลายครั้งที่เขาใช้ริบบิ้นไหมสีชมพูอ่อนกับผ้าที่มีความโปร่ง อย่างผ้าลูกไม้และผ้าออแกนซ่า ส่วนโค้ตในรูปด้านบน หากเป็นสีดำอย่างเดียวคงดูแห้งๆ ไม่มีอะไร แต่เพียงแค่คาดแถบสีชมพูสดๆ ก็ช่วยสร้างลายกราฟิกที่ดูเท่และโมเดิร์นขึ้นมาทันที

    เห็นชุดนี้แล้วนึกถึงผลงานของครีเอทีฟไดเรกเตอร์ชาวฝรั่งเศส นิโคลัส เกสกุลิเยร์ (Nicolas Ghesquiere) ที่กุมบังเหียนห้องเสื้อ Balenciaga ยาวนานถึง 15 ปีและเป็นผู้ที่ทำให้แบรนด์กลับมาเป็นผู้นำอีกครั้งด้วยการดีไซน์ที่ผสมเอกลักษณ์โครงชุดของคริสโตบัลกับความ Sci-Fi ดูล้ำอนาคต รวมทั้งการใช้วัสดุหลากชนิด และการใช้สีที่ดูขัดกันแต่กลับกลมกลืนอย่างที่สุด

    ในนิทรรศการยังมีโซนภาพร่างกับคำอธิบายที่คริสโตบัลเขียนไว้ในคลังจดหมายเหตุ ทำให้เห็นว่าสิ่งที่เขามองเห็นตั้งแต่แรก และวิธีการที่เขานำไปสู่จุดหมายนั้นเป็นอย่างไร

    สิ่งที่เห็นได้ชัดจากนิทรรศการ Balenciaga, L’oeuvre au noir คือความตั้งใจในการทำงานของกูตูริเยร์ขั้นครูที่ใส่ใจตั้งแต่วาดแบบ ขึ้นแบบบนผ้าฝ้าย ไปจนถึงการตัดเย็บออกมาจริง

 

 

    ในยุคสมัยที่เสื้อผ้าบนรันเวย์มีความเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโครงชุดโคร่งๆ หรือลายพิมพ์ปักเลื่อมมากมายมหาศาลนั้น สุดท้ายแล้วการออกแบบกับการตัดเย็บสำคัญที่สุด ต่อให้ราคาแพงแค่ไหน แต่ของที่อยู่เหนือเทรนด์นั้นไร้กาลเวลา ดั่งชุดที่นำมาจัดแสดง

    ห้องเสื้อ Balenciaga ก่อตั้งมาจะครบ 100 ปีแล้ว หากแต่สิ่งที่หลายคนจำได้คือกระเป๋าหมุด หรือกระเป๋าหนังจากถุงกระสอบ แต่นิทรรศการนี้ทำให้เราเข้าใจหัวใจสำคัญของแบรนด์ ทำให้เห็นว่าต่อให้เปลี่ยนครีเอทีฟไดเรกเตอร์ไปอีกกี่คน ก็จะไม่สามารถลบภาพโครงชุดต่างๆ ที่คริสโตบัลได้สร้างไว้ในยุคเริ่มต้นได้

 

Photo: ธรรศ โนอุโมงค์
FYI
  • นอกจากนิทรรศการแห่งนี้แล้ว ยังมี Balenciaga: Shaping Fashion ซึ่งจัดที่พิพิธภัณฑ์ Victoria and Albert Museum ในกรุงลอนดอน จัดแสดงผลงานของคริสโตบัล 120 ชิ้นที่สร้างอิทธิพลต่อบรรดานักออกแบบรุ่นหลัง โดยจะมีผลงานจากดีไซเนอร์ร่วมที่ได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าของเขาอีกด้วย
  • นิทรรศการ Balenciaga, L’oeuvre au noir จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์บูร์แดล ในกรุงปารีส ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม – 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
  • ราคาตั๋วเข้าชมนิทรรศการอยู่ที่ 10 ยูโร หากเป็นนักเรียนหรือเด็กเล็กจะได้รับส่วนลดเพิ่ม ส่วนผลงานที่จัดแสดงถาวรภายในพิพิธภัณฑ์ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • การเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์บูร์แดลนั้นไม่ยาก เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนในปารีสมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วถึง ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในเขต 15 สามารถนั่งเมโทรลงสถานี Montparnasse – Bienvenüe ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของสาย 4, 6, 12 และ 13 แล้วเดินต่อเพียงไม่กี่นาที ส่วนรถเมล์ก็มีมากถึง 9 สาย เนื่องจากเป็นจุดใกล้สถานีรถไฟใหญ่สายตะวันตก จุดสังเกตสำคัญคือ ตึก Montparnasse ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในเขตตัวเมืองปารีส

 

Map :

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X