ผลสำรวจความเห็นของสำนักข่าว NBC เกี่ยวกับมุมมองและการเปิดรับคริปโตเคอร์เรนซีของชาวอเมริกันพบว่า 1 ใน 5 มีการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้จ่ายชำระสินค้า เก็บออม ลงทุน และซื้อขายแลกเปลี่ยน นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้สำคัญที่แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มได้รับการยอมรับจากคนในสังคมอเมริกันในวงกว้างมากขึ้น แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสำนักออกมาเตือนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และภาครัฐกำลังวางแผนกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ผลโพลระบุว่า ประชากรชายที่เข้าร่วมการสำรวจอายุระหว่าง 18-49 ปี ครึ่งหนึ่งยอมรับว่า เคยข้องแวะกับการลงทุนในคริปโต ขณะที่ 40% ของชาวอเมริกันผิวสีกล่าวว่า เคยมีประสบการณ์ซื้อขายหรือใช้คริปโต ในขณะที่โดยรวมชาวอเมริกัน 42% อายุระหว่าง 18-34 ปี เคยมีประสบการณ์ข้องแวะกับคริปโต
นอกจากนี้ 21% ของชาวอเมริกัน 1,000 คนที่เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้ มีการใช้หรือลงทุนในคริปโตอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างใหม่แห่งนี้มีการเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลได้แพร่กระจายออกไป ในขณะที่สภาคองเกรสร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางเพื่อแนะนำกฎระเบีบบใหม่กำกับตลาดแห่งนี้
สำหรับข้อดีของคริปโตคือ การที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายน้อย เป็นส่วนตัว ปลอดภัย และสามารถดำเนินธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว กระนั้นข้อเสียเปรียบก็คือ ความเสี่ยงและภาวะราคาที่ค่อนข้างผันผวน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผลสำรวจครั้งนี้จะพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 19% ที่มองคริปโตในแง่บวก และ 25% ยังคงมองคริปโตในแง่ลบ
อ้างอิง:
