ภาพจำในฐานะตัวร้ายชวนติดตาของ ครูเอลลา เดอ วิล เจ้าแม่แฟชั่นสุดแสบสันจาก The Hundred and One Dalmatians (1956) นวนิยายสุดคลาสสิกจากปลายปากกาของนักเขียน Dodie Smith ที่กลายมาเป็นผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังอย่าง 101 Dalmatians (1961) รวมถึงฉบับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันอย่าง 101 Dalmatians (1996) และ 102 Dalmatians (2000) ซึ่งนำแสดงโดย Glenn Close
ด้วยจำนวนผลงานที่ถูกผลิตออกมาหลากหลายเวอร์ชัน ล้วนแล้วแต่เป็นหลักฐานชั้นดีที่พิสูจน์ว่าครูเอลลาคือตัวร้ายฝ่ายหญิงที่แฟนๆ ดิสนีย์ต่างหลงรัก
ดังนั้น ก็ไม่ต้องแปลกใจถ้าดิสนีย์จะหยิบเจ้าแม่แฟชั่นตัวร้ายคนนี้มานำเสนออีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Cruella หลังจากที่ผลงานก่อนหน้าอย่าง Maleficent (2014) และ Maleficent: Mistress of Evil (2019) ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่หยิบนำตัวร้ายฝ่ายหญิงอย่าง มาเลฟิเซนต์ จากแอนิเมชันเรื่อง Sleeping Beauty (1959) มาบอกเล่าในมุมมองใหม่ จนได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม
Cruella จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปในปี 1970 เพื่อติดตามเส้นทางชีวิตของ ครูเอลลา เดอ วิล (Emma Stone) ในช่วงเวลาที่เธอยังเป็นเพียงหญิงสาวกำพร้าที่หาเลี้ยงชีพด้วยการลักเล็กขโมยน้อยร่วมกับ แจสเปอร์ (Joel Fry) และ ฮอร์ริส (Paul Walter Hauser) สองโจรข้างถนนที่เติบโตมาด้วยกัน
ด้วยความหลงใหลในแฟชั่นและฝีมือการออกแบบเสื้อผ้าที่เหนือชั้น จึงทำให้ บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (Emma Thompson) ตำนานแฟชั่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในลอนดอน ดึงตัวครูเอลลามาร่วมงานด้วย แต่แล้วชีวิตที่กำลังไปได้สวยของครูเอลลาก็เริ่มจะพลิกผัน เมื่อเธอได้รู้ความจริงว่าบารอนเนสคือคนที่สังหารแม่ของตัวเอง นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล้างแค้นสุดเผ็ดร้อนของครูเอลลา และยังเป็นจุดกำเนิดของนางร้ายมากเสน่ห์ที่แฟนๆ ดิสนีย์ต่างหลงรักอีกด้วย
แน่นอนว่าหน้าที่หลักของ Cruella คือการนำเสนอความเป็นมาของตัวละครครูเอลลาในแง่มุมที่แฟนๆ ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งเรื่องราวในวัยเด็กของเธอ เหตุผลที่ทำให้เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ รวมถึงการตอบคำถามว่าทำไมเธอถึงกลายมาเป็นครูเอลลาผู้ชื่นชอบเสื้อคลุมหนังสัตว์
แต่นอกจากมิติของตัวละครครูเอลลาที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้ว สิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่ผู้กำกับอย่าง Craig Gillespie (I, Tonya) ยังพาเราไปลงลึกถึงมิติของตัวละครรอบตัวของครูเอลลาเช่นกัน โดยเฉพาะสองคู่หูอย่างแจสเปอร์และฮอร์ริส ซึ่งหากเราย้อนกลับไปในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง 101 Dalmatians บทบาทของพวกเขาทั้งคู่ก็เป็นเพียงแค่ตัวร้ายที่คอยทำตามคำสั่งของครูเอลลา และสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชมเพียงเท่านั้น
แต่สำหรับครั้งนี้ เราจะได้ทำความรู้จักแจสเปอร์และฮอร์ริสในเวอร์ชันที่มีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น ทั้งทัศนคติที่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร และความผูกพันที่แจสเปอร์และฮอร์ริสมีต่อครูเอลลาที่เติบโตมาด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพียงตัวประกอบที่มาเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่กลับเป็นสองตัวละครสำคัญที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นพัฒนาการของตัวละครหลักอย่างครูเอลลาอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ตัดภาพมาที่ตัวละครหลักอย่างครูเอลลากันบ้าง แม้ว่าคาแรกเตอร์ของเธอจะจัดเต็มด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสุดอลังและความร้ายกาจตามต้นฉบับที่แฟนๆ ชื่นชอบ แต่ครั้งนี้เราจะได้เข้าไปทำความรู้จักเธอมากยิ่งขึ้นผ่านการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งความเศร้าโศกที่เธอได้สูญเสียแม่ของตัวเองไป ความทุ่มเทอันแรงกล้าเพื่อเป้าหมายที่อยากจะเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ รวมถึงมุมที่อ่อนแอของเธอ ซึ่งเราต้องขอปรมมือให้กับ Emma Stone ผู้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายของครูเอลลาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ถูกใส่เข้ามาเพื่อเติมแต่งบรรยากาศยุค 70 ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น I Wanna Be Your Dog จากศิลปิน the Stooges, Stone Cold Crazy จากศิลปิน Queen, She’s A Rainbow จากศิลปิน The Rolling Stones ฯลฯ รวมถึงดนตรีประกอบภาพยนตร์จากปลายปากกาของ Nicholas Britell ที่เข้ามาแต่งแต้มสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งสำหรับใครที่ดู Cruella จบแล้วและอยากจะไปตามฟังเพลงกันต่อก็สามารถไปตามฟังกันได้ที่นี่เลย
เพลย์ลิสต์ดนตรีประกอบภาพยนตร์จากที่ประพันธ์โดย Nicholas Britell
เพลย์ลิสต์เพลงประกอบภาพยนตร์ Cruella
มาว่ากันที่เรื่องงานพากย์ฉบับภาษาไทยกันบ้าง สำหรับผู้ที่มาให้เสียงพากย์ตัวละครครูเอลลาในครั้งนี้คือ คริส หอวัง นักแสดงหญิงมากฝีมือที่สวมบทบาทมาแล้วหลากหลายคาแรกเตอร์ ซึ่งเราคิดว่าน้ำเสียงทุ้มต่ำและเสียงหัวเราะของเธอค่อนข้างเข้ากับคาแรกเตอร์นางร้ายอย่างครูเอลลาอยู่ไม่น้อย
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อคริสต้องมาอยู่ท่ามกลางเสียงของนักพากย์มืออาชีพ จึงทำให้เรารู้สึกว่าในหลายๆ ฉากที่ครูเอลลาต้องสนทนากับตัวละครรอบข้าง เสียงพากย์ของเธอดูจะโดดไปจากตัวละครอื่นๆ อยู่พอสมควร แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นงานพากย์ไทยครั้งแรกของเธอที่เข้ามาเติมเต็มสีสันให้ครูเอลลาโดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งเราอยากเชิญชวนให้แฟนๆ ดิสนีย์ได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองดูสักครั้ง
จากทั้งหมดที่กล่าวมา เราคิดว่า Cruella คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่แฟนๆ ดิสนีย์จะต้องตกหลุมรักไปกับเรื่องราวของครูเอลลาในครั้งนี้อย่างแน่นอน และสำหรับผู้ชมคนไหนที่ไม่เคยรู้จักกับครูเอลลามาก่อน นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้ทำความรู้จักเจ้าแม่แฟชั่นสุดเผ็ดร้อนคนนี้ เพราะเราเชื่อว่าทั้งการแสดงของ Emma Stone และองค์ประกอบอีกมากมายของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะสร้างความสนุกสนานให้กับคุณได้ไม่มากก็น้อยทีเดียว
รับชมตัวอย่างฉบับพากย์ไทยได้ที่นี่:
ภาพ: Disney
